หุ้นไทยเช้านี้บวก 1.65 จุด เงินเฟ้อสหรัฐฯยังอยู่ในระดับที่ดี แต่ยังต้องระวังสงครามตะวันออกกลาง

ความเคลื่อนไหว "หุ้นไทย" ภาคเช้า ณ วันที่ 12 มิ.ย.2568 เวลา 10.00 น. ปรับขึ้น 1.65 จุด หรือ 0.14% หรืออยู่ที่ 1,143.23 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3,473.70 ล้านบาท

กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า เช้านี้ตลาดหุ้นไทยเปิดบวกขึ้นมาได้จากกลุ่มพลังงานเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ เนื่องมาจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นถึง 5% จากเมื่อคืนนี้ โดยมีสาเหตุหลักจากความไม่แน่นอนในตะวันออกกลาง หลังมีรายงานว่าสหรัฐฯ เตรียมอพยพเจ้าหน้าที่บางส่วนออกจากสถานทูตในอิรัก ส่งผลจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานอย่าง PTT PTTEP ปรับขึ้นมาในวันนี้ 

นอกจากนี้ ยังมีหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าอย่าง GULF ที่มีปัจจัยเฉพาะตัวจากการที่ สารัชถ์ รัตนาวะดี ซื้อหุ้นคืน 2 ล้านหุ้นที่ราคาประมาณ 43.50 บาท รวมเป็นเงิน 87 ล้านบาท 

ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าคาดที่ 2.4% ซึ่งถือเป็นข่าวดีที่ช่วยสนับสนุนตลาด ส่วนความคืบหน้าในการเจรจาด้านภาษีระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่สามารถตกลงกันได้ในที่สุดโดยจีนจะต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นอีก 55% ส่วนสหรัฐฯ เพิ่ม 10%

"แม้จะมีปัจจัยบวกดังกล่าวเข้ามาหนุนตลาด แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังจากสถานการณ์จากความไม่แน่นอนในตะวันออกกลางที่ยังคงอยู่ รวมถึงปัจจัยการเมืองในประเทศที่ยังเป็นปัจจัยถ่วง ดังนั้นตลาดยังคงขึ้นไม่ได้มาก แนะนำแค่เทรดดิ้ง แนวต้านของดัชนีตลาดหุ้นไทยไว้ที่ 1150 จุด"

จิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นแม้จะมีปัจจัยหนุนจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ และการเจรจาการค้า แต่ก็มีความตึงเครียดนตะวันออกกลางเข้ามาเป็นตัวกดดัน โดยวานนี้ราคาน้ำมันดิบ Brent +4.3% ปิดที่ระดับ 69.77 เหรียญต่อบาร์เรล ทำจุดสูงสุดในช่วง 2 เดือน ผสานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯรายสัปดาห์ที่ลดลงกว่า -3.64 ล้านบาร์เรล ลดลงมากกว่าคาดที่ -2.27 ล้านบาร์เรล ดังนั้นอาจทำให้ตลาดหุ้นยังผันผวน ซึ่งวันนี้คาดว่าตลาดจะไซด์เวย์ในกรอบ 1130-1150 จุด

โดยสหรัฐฯรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ เดือนพฤษภาคม พบว่าเงินเฟ้อทั่วไปขึ้นเล็กน้อยสู่ +2.4%y-y จาก +2.3%y-y แต่เป็นไปตามคาด ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน ทรงตัวที่ +2.8%y-y แต่ต่ำคาดที่ +2.9%y-y จากตัวเลขดังกล่าวสะท้อนภาพเงินเฟ้อสหรัฐฯที่ยังอยู่ในระดับที่ดี สนับสนุนโอกาสที่ FED จะลดดอกเบี้ยในช่วงถัดไป โดยเราคาดช่วงที่เหลือของปีนี้ FED มีโอกาสลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง ในเดือน ก.ย. และ ธ.ค.2568

ส่วนความเคลื่อนไหวล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าสหรัฐฯ และจีนได้บรรลุกรอบข้อตกลงทางการค้าแล้ว โดยจีนจะจัดส่งแร่หายากขณะที่สหรัฐฯ จะอนุญาตให้นักเรียนจีนเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ส่วนการเก็บภาษี สหรัฐฯ จะเก็บที่อัตรา 55% ขณะที่จีนเก็บ 10% โดยรอการอนุมัติขั้นสุดท้ายจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งคงต้องติดตามต่อไป แต่ก็ถือเป็นข่าวที่ช่วยผ่อนคลายความกังวลด้านสงครามการค้าได้บ้าง  

สำหรับ หุ้นแนะนำวันนี้ GULF คาดแนวโน้มธุรกิจยังเติบโตเด่น ทั้งจากธุรกิจพลังงานที่ยังมี โครงการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผสานกับการนำเข้า LNG เพิ่มเติมจะช่วยการประหยัดต้นทุนมากยิ่งขึ้นในช่วงถัดไป ส่วนด้านธุรกิจดิจิตอลยังมีความต้องการสูง โดยคาดจะเริ่มรับรู้รายได้จาก Data Center เฟสแรกในช่วงไตรมาส 3/68 ฐานะการเงินแข็งแกร่งหลังการควบรวม INTUCH ส่งผลให้ D/E ratio ลดสู่ 0.8 เท่าจากเดิมที่ 1.8 เท่า ราคาเป้าหมายที่ 60 บาท