หุ้น KTB บวก 2.28% คาดปีนี้ปันผลสูง 7.1% 'โบรก'ให้มูลค่าพื้นฐานที่ 24.50 บาท

หุ้น KTB บวก 2.28% คาดปีนี้ปันผลสูง 7.1% 'โบรก'ให้มูลค่าพื้นฐานที่ 24.50 บาท

หุ้น KTB หรือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บวก 2.28% "โบรก" คาดปีนี้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงที่ 7.1% ด้วยมูลค่าพื้นฐานที่ 24.50 บาท ขณะที่ เศรษฐกิจไทยชะลอตัวจากความท้าทายสูงขึ้นจากนโยบายภาษีของสหรัฐ และความเปาะบางของกลุ่มลูกหนี้รายย่อย และ SME ทำให้ธนาคารต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเติบโต

ความเคลื่อนไหว ตลาดหุ้นไทย ภาคเช้า ณ วันที่ 6 มิถุนายน 2568 เวลา 10.40 น. หุ้น KTB หรือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ราคาหุ้น KTB บวก 2.28% เพิ่ม 0.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 22.40 บาท 

หุ้น KTB บวก 2.28% คาดปีนี้ปันผลสูง 7.1% 'โบรก'ให้มูลค่าพื้นฐานที่ 24.50 บาท

บล.พาย เปิดเผยว่า จากการประชุมนักวิเคราะห์ KTB คาด เศรษฐกิจไทย ปีนี้เติบโต 0.7-2.0% และอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับลดลงอีก 1 ครั้ง เหลือ 1.50% ณ สิ้นปีนี้ ซึ่งเป้าหมายทางธุรกิจมีความท้าทายเพิ่มขึ้น แต่ KTB ยังคงเป้าหมายการเงินของปีนี้ไว้ตามเดิม เพราะมองว่ายังจัดการได้ และจะทบทวนอีกครั้งหลังเดือน มิ.ย. ประกอบด้วย 

(1) สินเชื่อเติบโต: Flat 

(2) ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM): 2.9-3.2% แนวโน้มเป็นกรอบล่าง 

(3) การเติบโตรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิ: Low to Mid Single digit 

(4) NPL ratio: <3.25% ยังควบคุมตุณภาพสินเชื่อได้ดี 

(5) Credit cost: 105-110 bps โดยมองว่าสำรองหนี้ฯ เป็นระดับสูงสุดใน 1Q และจะปรับลดลงในไตรมาสหน้า 

(6) Coverage ratio: 170% +/- แต่ด้วยความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นทำให้รักษาไว้ที่ระดับ 180% และ 

(7) Cost to income ratio: Low to Mid 40% โดยมีการลงทุนในระบบ IT ต่อเนื่อง 

ขณะที่ด้านค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ NPA ที่บันทึกไว้สูง 1.6 พันล้านบาท ในไตรมาส 1/68 จะปรับลดลงในไตรมาสหน้า
 

ทั้งนี้ การเติบโตสินเชื่อมีความท้าทายมากขึ้นจากนโยบายการค้าของสหรัฐ เน้นคุณภาพควบคู่กับอัตราผลตอบแทนที่เหมาะสม 

(1) ลูกค้าธุรกิจเป็นกลุ่มลูกค้าเก่า และสามารถเติบโตได้ และ 

(2) ลูกค้ารายย่อย เช่น สินเชื่อที่อยู่อาศัยในกลุ่มลูกค้าภาคเอกชนที่เป็นพนักงานประจำ รายได้มั่นคง และที่พักอาศัยอยู่ในโครงการระดับสูง นอกจากนี้ ขยายพอร์ตสินเชื่อบ้านแลกเงิน

ส่วนงบดุลแข็งแกร่งและเงินกองทุนสูง KTB มีนโยบายคงอัตราการจ่ายเงินปันผล หลังจากปรับ Payout ratio เป็น 49.3% ในปี 2024

ขณะที่ ผลการดำเนินงานท้าทายมากขึ้นจากเศรษฐกิจชะลอตัวมีมุมมองเป็นกลางหลังการประชุมนักวิเคราะห์ และสมมติฐานของเรายังอยู่ในกรอบเป้าหมายของธนาคาร ดังนั้นคงคาดการณ์กำไรสุทธิตามเดิม โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต 1% ในปีนี้ เพราะสำรองหนี้ฯ ลดลง และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสูงขึ้น คาดกำไรจะปรับเพิ่มขึ้นราว 2% ในปี 2569

โดยในเบื้องต้น คาดกำไรสุทธิใน 2Q25 จะสามารถปรับเพิ่มขึ้น YoY หนุนจากสำรองหนี้ และค่าใช้จ่ายการดำเนินงานลดลง แต่กำไรอาจทรงตัว หรือปรับลดลงเล็กน้อย QoQ จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับลดลง แม้สำรองหนี้ฯ จะปรับลดลง และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ NPA จะลดลง

อย่างไรก็ตาม คงคำแนะนำ "ซื้อ" คาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงที่ 7.1% ในปีนี้ ด้วยมูลค่าพื้นฐานที่ 24.50 บาท ประเมินด้วยวิธี GGM (ROE 9.5%, Terminal growth 2%) อิง 0.7x PBV’25E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี