‘หุ้นไทย’มิ.ย.ผันผวนสูง ตลท.ปรับน้ำหนักเดลต้า สร้างความกังวล

“ตลาดหุ้นไทย” วานนี้ (4 มิ.ย.) ปิดตลาดอยู่ที่ 1,132.02 จุด ลดลง 17.16 จุด หรือ 1.49% โดยดัชนีฯ เคลื่อนไหวผันผวนทั้งวัน ทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,149.68 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,127.57 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 49,487.15 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ -867.05 ล้านบาท หลัง ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับน้ำหนักหุ้น DELTA ในดัชนี SET50 และ SET100 สร้างความกังวลใจต่อการลงทุนในเดือน มิ.ย. และแรงขายหุ้นกลุ่ม Global playหลังเริ่มเห็นสัญญาณชะลอตัวเศรษฐกิจจีนขณะที่แนวโน้มหุ้นไทยเดือน มิ.ย.ยังผันผวนสูง

นายพิริยพล คงวาณิช ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์พื้นฐาน สายงานวิจัย บล.บัวหลวง กล่าวว่าดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงแรงจากแรงขายหุ้นกลุ่ม Global playหลังเริ่มเห็นสัญญาณชะลอตัวเศรษฐกิจจีน ไฉซินเผยCaixinPMI ภาคการผลิตจีนเดือนพ.ค.หดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือนปรับตัวลดลงแตะ 48.3 ในเดือนพ.ค. จาก 50.4 ในเดือนเม.ย. นับเป็นการหดตัวลงครั้งแรกในรอบ 8 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว ทั้งยังเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 32 เดือนด้วย

อีกทั้งหุ้น DELTA ปิดลงแรงราว 10% หลังตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกแนวทางการจัดทำดัชนี SET50 และ SET100 แบบใหม่ Cap Weight หุ้นรายตัวไม่เกิน 10% ในดัชนี SET50 และ SET100 อาจทำให้สถาบัน-ต่างชาติปรับพอร์ต

อ้างอิงหลักเกณฑ์การจัดทำดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ฯ รอบพฤษภาคม 2568 ระบุว่าดัชนีSET50 และดัชนีSET100 คำนวณโดยถ่วงน้ำหนักมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization Weighted)และจำกัดน้ำหนักสูงสุดต่อหลักทรัพย์ที่ 10 % โดยปรับน้ำหนักรายไตรมาส ทั้งนี้ น้ำหนักของ DELTA ใน SET50 ณ 30 พ.ค. 2568 อยู่ที่ 12.6% และ SET100 11.5% ทำให้ตลากังวลต่อการลดน้ำหนักของหุ้นดังกล่าวในเดือนมิ.ย.นี้

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเดือนมิ.ย. ยังมองว่า ความไม่แน่นอนข้างหน้ายังคงสูง มองกรอบเดือนมิ.ย. ไว้ที่ 1,100-1,190 จุดผลกระทบภาษีสหรัฐฯ คาดเริ่มส่งผลชัดเจนต่อเศรษฐกิจโลกและไทย โดยเฉพาะภาคการส่งออกในปลายไตรมาส 2-3 ปี 2568 ก่อนคาดเริ่มฟื้นตัวชัดเจนในช่วงไตรมาส 4 ปี 2568และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นแรง จากความกังวลการคลังและระดับหนี้ภาครัฐที่สูงกดดันสินทรัพย์เสี่ยง

รวมถึง ในประเทศยังคงมีแรงต้านเชิงโครงสร้างกดดันการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ได้แก่ ภาระหนี้ครัวเรือนระดับสูงกดดันการบริโภค,การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวที่ช้ากว่าคาด,และ การลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI) ที่อาจเริ่มชะลอจากความไม่แน่นอนนโยบายภาษีกำไรบริษัทฯไทยอาจได้รับผลกระทบในช่วงไตรมาส 2–3โดยคาดการณ์กำไรหุ้นไทยยังโดนปรับลงต่อเนื่อง Consensus EPS ของตลาดถูกปรับลดลงแล้ว 6% YTD นำโดยกลุ่ม cyclical sectorsขณะที่ Food และ ICT ยังปรับขึ้น

นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นวานนี้ ปรับตัวลดลง underperformed ภูมิภาค หลักๆ เป็นผลมาจากการปรับตัวลงของราคาหุ้น DELTA คาดเกิดจากจากความกังวลที่ตลาดอาจพิจารณานำมาตรการกำหนดน้ำหนักของหุ้นที่อยู่ในการคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 ไม่ให้เกิน 10% Cap weight มาใช้ ทำให้มีความกังวลต่อการลดน้ำหนักของหุ้นดังกล่าวในเดือนนี้

ขณะที่แนวโน้มหุ้นไทยในเดือน มิ.ย. เราเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวในรูปแบบ sideways up ประเมินกรอบของ SET Index ไว้ที่1,100-1,200 จุด หลังจากเผชิญความผันผวนจากอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐที่ยังอยู่ในการพิจารณาคดีของศาลอุทธรณ์ในเดือนที่ผ่านมา อีกทั้งประธานาธิบดีทรัมป์อาจพิจารณากลไกทางกฎหมายทางเลือกในการเรียกเก็บภาษีนำเข้าที่อาจขยายขอบเขตไปยังอุตสาหกรรมอื่น ๆ 

ด้วยภาพของต่างประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอน จึงแนะนำการลงทุนหุ้น defensive ในประเทศเพื่อ hedge ความเสี่ยงบางส่วนผสมผสานกับ Global play หากอัตราภาษีมีการพลิกกลับในอัตราลดลง และมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ได้แก่ BEM, GULF, TIDLOR, PTTGC, และ TOP