ดาวโจนส์ปิดตลาดติดลบ รายงานการจ้างงานเอกชนต่ำสุดในรอบ 2 ปี ฉุด

ดาวโจนส์ปิดตลาดติดลบ รายงานการจ้างงานเอกชนต่ำสุดในรอบ 2 ปี ฉุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบในวันพุธ หยุดสถิติการขึ้น 4 วันรวด หลังการจ้างงานภาคเอกชนแตะระดับต่ำสุดในรอบมากกว่า 2 ปี ตลาดกังวลนโยบายการค้าอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ซีเอ็นซี รายงานภาวะ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท วันพุธ (4 มิ.ย.) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลงในวันพุธ หลังการจ้างงานภาคเอกชนแตะระดับต่ำสุดในรอบมากกว่า 2 ปี ทำให้เกิดความกังวลว่าความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ดัชนีดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ซึ่งประกอบด้วยหุ้น 30 ตัว ลดลง 91.90 จุด หรือ 0.22% ปิดที่ 42,427.74 จุด ดัชนีหุ้นบลูชิป หยุดการขึ้น 4 วันรวด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.01% ปิดที่ 5,970.81 จุด ขณะที่ ดัชนี Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.32% ปิดที่ 19,460.49 จุด

ตัวเลขจ้างงานต่ำฉุดความเชื่อมั่น

รายงานจากบริษัทประมวลผลข้อมูลการจ้างงาน ADP ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเพียง 37,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม ซึ่งน้อยกว่าตัวเลขที่ปรับใหม่ที่ 60,000 ตำแหน่งในเดือนเมษายน และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดยบริษัทดาวโจนส์ คาดการณ์ไว้ที่ 110,000 ตำแหน่ง

รายงานดังกล่าวทำให้รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของรัฐบาลซึ่งมีความสำคัญยิ่งในวันศุกร์อาจจะออกมาไม่ค่อยดีนัก โดยปัจจุบันนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 125,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม ตามผลสำรวจของบริษัทดาวโจนส์

ทรัมป์จี้ประธานเฟดเร่งลดดอกเบี้ย ยอมรับคุยกับสี ยาก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โจมตีเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐทันทีหลังจากตัวเลขดังกล่าวถูกเปิดเผย โดยกล่าวว่า "สายเกินไปแล้วที่พาวเวลล์ควรปรับลดอัตราดอกเบี้ย"

แม้ว่ารายงานของ ADP จะ "ไม่แน่นอน" และภาษีศุลกากรที่สูงมากเกินไป แต่ไมค์ ดิกสัน จาก Horizon Investments บอกกับซีเอ็นบีซี ว่า "สถานการณ์อาจจะดีกว่าที่กลัวกัน"

“ผมคิดว่ารายงานของ ADP เคยมีประวัติที่เชื่อถือมากไม่ค่อยได้ ดังนั้นผมคิดว่าเราคงต้องรอดูกันรายงานตลาดแรงงานภาพรวมในวันศุกร์” หัวหน้าฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์เชิงปริมาณของบริษัทกล่าว “ข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดค่อนข้างต่ำและเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ถูกต้อง”

ถึงจะเห็นอย่างนั้น เขาก็ยังคิดว่า ตลาดจะอยู่ในกรอบแคบๆ ในระยะใกล้ๆ และเสริมว่า “เรากำลังเข้าสู่ช่วงซบเซาเล็กน้อย” ในแง่ของตัวเร่งปฏิกิริยาของตลาดในเดือนหน้า

ตลาดวอลล์สตรีทกำลังฟื้นตัวอย่างมั่นคงด้วยหุ้นเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ทำให้ผู้ลงทุนมองข้ามความกังวลใดๆ เกี่ยวกับภาษีศุลกากรหรือเศรษฐกิจได้ ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกขึ้นมากกว่า 200 จุด หรือ 0.5% ในวันอังคาร

การเพิ่มขึ้นล่าสุดทำให้ผู้ลงทุนมั่นใจมากขึ้นว่าหุ้นได้พลิกกลับมามีมุมมองใหม่ในเรื่องภาษีศุลกากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการพลิกกลับนโยบายหลายครั้งของทรัมป์ ทำให้ผู้ค้าหุ้นเชื่อว่าทำเนียบขาวใช้กำแพงภาษีศุลกากรเป็นเครื่องมือหลักในการเจรจา ศาลรัฐบาลกลางได้ตัดสินยกเลิกภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งยิ่งทำให้มีความหวังมากขึ้นว่า ตลาดได้คิดเผื่อกรณีภาษีศุลกากรเลวร้ายที่สุดไว้แล้ว แม้ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งให้ปรับขึ้นภาษีศุลกากรเป็นการชั่วคราวในภายหลังก็ตาม

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทรัมป์โพสต์ว่าการสื่อสารกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนนั้น “ยากลำบากอย่างยิ่ง”