ดาวโจนส์ร่วง 200 จุด S&P 500 ลงต่อ หลังทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีสินค้าอียู

ซีเอ็นบีซี รายงานว่า หุ้นวอลล์สตรีทร่วงในวันศุกร์ (23 พ.ค.) หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ปลุกความกังวลด้านการค้าอีกครั้ง โดยออกมาเตือนบริษัทแอปเปิล และแนะนำให้ขึ้นภาษีสินค้าจากสหภาพยุโรปเป็น 50% 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ร่วง 256.02 จุด หรือ 0.61% ปิดที่ 41,603.07 จุด ดัชนี S&P  500 ปิดที่ 5,802.82 จุด ลดลง 0.67% และแนสแด็กคอมโพสิต Nasdaq Composite ปิดที่ 18,737.21 จุด ลดลง 1%

• ทรัมป์ขู่เก็บภาษีไอโฟน 25%

ราคาหุ้นแอปเปิลร่วง 3% หลังทรัมป์โพสต์ลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Truth Social ว่า โทรศัพท์ไอโฟนที่ขายในสหรัฐฯ ต้องผลิตในสหรัฐฯ และหากไม่เป็นเช่นนั้น “แอปเปิลจะต้องจ่ายภาษีนำเข้าอย่างน้อย 25%” การเคลื่อนไหวต่อต้านแอปเปิลของทรัมป์นับเป็นครั้งแรกที่ทรัมป์กระทำต่อบริษัทใดบริษัทหนึ่งในการขึ้นภาษีในปีนี้

ประธานาธิบดียังกล่าวอีกว่าการหารือด้านการค้ากับสหภาพยุโรป "ไม่คืบหน้าไปไหน" และแนะนำให้ "เก็บภาษีนำเข้าสหภาพยุโรปโดยตรง 50% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2025"

ราคาหุ้นฟื้นขึ้นจากจุดต่ำสุดของวันหลังจากที่ อีมอน จาเวอร์สแห่งซีเอ็นบีซีรายงานว่าทำเนียบขาวไม่ได้ตีความคำพูดของทรัมป์ว่าเป็นคำแถลงนโยบายอย่างเป็นทางการ

การออกมาแสดงความเห็นของทรัมป์เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดเรื่องภาษีศุลกากรกำลังคลี่คลายลง ทรัมป์ได้ตั้งกำแพงภาษีศุลกากรต่อประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่ในโลกในเดือนเมษายน ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นร่วงลงอย่างรุนแรงและเกือบทำให้ดัชนี S&P 500 เข้าสู่ภาวะตลาดหมี จากนั้นประธานาธิบดีก็หยุดการเรียกเก็บภาษีศุลกากรที่เข้มงวดที่สุดเป็นเวลา 90 วันและบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับสหราชอาณาจักรและจีน ทำให้ราคาหุ้นฟื้นตัว ดัชนี S&P 500 กลับมาเท่ากับปีที่แล้วเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่กลับอยู่ในแดนลบเมื่อสิ้นสุดการซื้อขายวันศุกร์นี้

นักลงทุนต่างซื้อหุ้นโดยมีการคาดเดาว่าจะมีการทำข้อตกลงเพิ่มเติมกับประเทศต่างๆ ในช่วงที่หยุดเก็บภาษีสูงเป็นเวลาสามเดือนนี้ การกระทำของทรัมป์เมื่อวันศุกร์อาจหมายความว่าความหวังนั้นไร้ความหมาย

“ตลาดได้แรงหนุนจากการผ่อนคลายความตึงเครียดนี้มาประมาณหกสัปดาห์แล้ว และตลาดก็มีช่วงหกสัปดาห์ที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งใน 75 ปีที่ผ่านมา และวาทกรรมสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้งก็คุกคามสิ่งนั้น ผมไม่คิดว่าเราจะทดสอบจุดต่ำสุดหรืออะไรทำนองนั้นอีกครั้ง เว้นแต่ว่ามันจะรุนแรงขึ้นจริงๆ แต่แน่นอนว่านี่เป็นก้าวที่ไปในทิศทางที่ผิดจากมุมมองของตลาด” รอส เมย์ฟิลด์  นักยุทธศาสตร์การลงทุนของ Baird กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซี

ด้านราคาหุ้นของ United States Steel พุ่งขึ้น 21% หลังจากที่ทรัมป์กล่าวใน Truth Social ว่าบริษัทจะจัดตั้ง “หุ้นส่วน” กับ Nippon Steel ของญี่ปุ่น เมื่อต้นปีนี้บริษัทญี่ปุ่นแห่งนี้ยื่นข้อเสนอเพื่อซื้อคู่แข่งในสหรัฐฯ แต่ถูกรัฐบาลสหรัฐขัดขวาง

การร่วงลงของวันศุกร์ทำให้ตลาดวอลล์สตรีทร่วงลงในรอบสัปดาห์ โดยดัชนี S&P 500, Dow และ Nasdaq ต่างก็ร่วงลงมากกว่า 2% ในสัปดาห์นี้

• คาดความปั่นป่วนด้านการค้าโลกมีต่อไป

เมื่อมองไปข้างหน้า ริค เวเดลล์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ RFG Advisory เตือนว่า “การนั่งรถไฟเหาะตีลังกา” ของความตึงเครียดเรื่องภาษีศุลกากรที่ลดระดับลงและทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นถาวรในช่วงวาระที่สองของทรัมป์

“นักลงทุนควรเข้าใจว่าปัญหาการค้าที่ยังคงหลงเหลืออยู่นี้น่าจะคงอยู่ตลอดระยะเวลาของรัฐบาลชุดนี้ ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะมองข้ามการค้าไปในช่วงใดเลย ผมคิดว่าพวกเขาคิดว่านี่คือลักษณะเฉพาะของรัฐบาลนี้ในการแก้ไขข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ” เขากล่าว “ผมขอสนับสนุนให้นักลงทุนอย่าหลงเชื่อความคิดที่ผิดๆด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป”