THAI ลุ้นกลับเข้าเทรด ก.ค. ยันไร้กระทบ’นักท่องเที่ยวจีน’ชะลอ

THAI ลุ้นกลับเข้าเทรด ก.ค. ยันไร้กระทบ’นักท่องเที่ยวจีน’ชะลอ

การบินไทย ลุ้นศาลฯ ไฟเขียวออกจากแผนฟื้นฟู มิ.ย.นี้ เตรียมกลับเข้าเทรดปลายก.ค.-ต้น ส.ค.นี้ ด้านไตรมาส 1 ปี 68 ฟอร์มแกร่ง ไร้กระทบท่องเที่ยวจีนชะลอ ปีนี้มั่นใจโตตามแผน

นางสาวเฉิดโฉม เทอดเสถีรศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงินและการบัญชี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทมีกรรมการใหม่เรียบร้อยและดำเนินการครบถ้วนต่อการออกจากแผนฟื้นฟูกิจการแล้ว ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา บริษัทได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อขอออกจากแผนฟื้นฟู คาดจะได้รับคำสั่งให้ยกเลิกการฟื้นฟูกิจการภายใน มิ.ย.นี้

โดย 4 มิ.ย. นี้ ศาลฯ จะมีการไต่สวนและบริษัทพร้อมไปชี้แจง ซึ่งหากศาลฯ ตัดสินให้ออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้จะดำเนินการตามกระบวนการต่างๆ เพื่อกลับเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดจะเป็นช่วงปลายเดือนก.ค. หรือต้นส.ค.นี้ ซึ่งยังขึ้นกับผลคำตัดสินทางศาลฯ และหลังจากนั้นจะเป็นไปตามกระบวนการของก.ล.ต.และตลท. ที่บริษัทจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนกลับเข้าซื้อขายได้

THAI ลุ้นกลับเข้าเทรด ก.ค. ยันไร้กระทบ’นักท่องเที่ยวจีน’ชะลอ

“เมื่อเราล้างขาดทุนสะสมครบทั้งหมดแล้ว และบริษัทมีกำไร ข้อจำกัดจ่ายเงินปันผล เป็นอำนาจของบริษัทที่จะพิจารณาจ่ายเงินปันผล ต้องมีการพิจารณาต่อไป จากแผนฟื้นฟูกิจการเรายังมีหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการที่ต้องชำระ ซึ่งยังต้องพิจารณาทั้งสองส่วนไปควบคู่กัน”

สำหรับทิศทางการดำเนินงานของการบินไทยในปีนี้ยังมั่นใจจะสามารถเติบโตได้ตามที่ตั้งไว้ หลังไตรมาส 1 ปี 2568 ดีกว่าที่คาดไว้โดยมีกำไรสุทธิ 9,831 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 308% จากช่วงเดียวกันปีก่อน อานิสงส์จํานวนเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 11.6% ด้าน Cabin Factor อยู่ที่ 83.3% ใกล้เคียงช่วงเดียวกันปีก่อน

สะท้อนแนวโน้มการเดินทางของผู้โดยสารยังคงมีการเติบโต และตลาดที่ได้รับผลกระทบ อย่างนักท่องเที่ยวจีนที่ชะลอตัวลง ซึ่งเห็นสัญญาณลดลงต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีก่อน แต่ไม่ได้ส่งผลถึงการบินไทยแต่อย่างใด เพราะมีผู้โดยสารที่ชดเชยเข้ามาจากทางอินเดียมาทดแทน

ขณะที่ แนวโน้มธุรกิจช่วงที่เหลือปีนี้ พบว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยังมีความต้องการเดินทางสูง ซึ่งตลาดหลักของการบินไทย อยู่ทั้งยุโรป เอเซีย ออสเตรเลีย แต่ยอมรับสถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาในไทยปีนี้ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมกลยุทธ์เพื่อเตรียมพร้อมรับช่วงไฮซีซันช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ และต่อเนื่องในไตรมาส 1 ปีหน้า โดย 5 กลยุทธ์ช่วงที่เหลือปีนี้ ดังนี้1.เพิ่มจำนวนเครื่องบินใหม่ หลังจากสิ้นปีก่อนมีเครื่องบินที่ให้บริการทั้งสิ้น 79 ลำ สิ้น ไตรมาส 1 ปี 2568 จะเหลือ 78 ลำ คาดว่า ในสิ้นปีนี้จะเครื่องบินเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 80 ลำ 

2.จุดบินตารางฤดูร้อนปีนี้ (เม.ย. ถึงปลายต.ค.) ทั้งสิ้น 63 เส้นทางบินทั้งในและต่างประเทศ รองรับทั้งภูมิภาคยุโรป เอเชีย ออสเตรเลีย และรองรับในประเทศ และช่วงซัมเมอร์ ถือเป็นช่วงปกติที่ธุรกิจจะชะลอเล็กน้อยในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 มีแผนที่จะบริหารจัดการใช้เวลาในการดูแลซ่อมบำรุงเครื่องบินและนำเครื่องบินกลับมาเข้ามาให้บริการดีขึ้น โปรดักส์จะได้รับการพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้น 

3.การซ่อมบำรุงเครื่องบิน ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมานี้ กับบางกอกแแอร์เวย์ร่วมกันศึกษาศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานในเขตอีอีซี เพื่อให้ประเทศไทย มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะการเป็นศูนย์กลางการซ่อมบำรุงอากาศยานในภูมิภาค

4.สร้างความร่วมมือกับสายการบินอื่น ทั้งเชิงกลยุทธ์และเชื่อมโยงเครือข่าย เพื่อขยายโอกาสการขายและสร้างศักยภาพ และ5.ดิจิทัลทรานฟอร์มเมชั่น ยกระดับการทำหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านบ็อกซ์เชน ถือเป็นการเปลี่ยนกระบวนการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพ ลดเวลาการทำงาน เพิ่มความปลอดภัย เพิ่มความโปร่งใส