ดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 800 จุด ผลตอบแทนพันธบัตรพุ่ง ผวาหนี้รัฐเพิ่ม

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงมากกว่า 800 จุด ในวันพุธ จากแรงกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลพุ่งสูงขึ้น และความกังวลเรื่องการขาดดุลงบประมาณของสหรัฐทำให้เกิดการเทขายหุ้น
บลูมเบิร์ก/ซีเอ็นบีซี รายงานภาวะตลาดหุ้นวอลล์สตรีทวันพุธ (21 พ.ค.68) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 800 จุด ในวันพุธ หุ้นถูกเทขายหนัก โดยได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกังวลว่าร่างงบประมาณฉบับใหม่ของสหรัฐ จะยิ่งทำให้การขาดดุลของประเทศซึ่งมีจำนวนมากอยู่แล้วสูงยิ่งขึ้น ส่งผลให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ร่วงลง 816.80 จุด หรือ 1.91% สู่ระดับ 41,860.44 จุด ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 1.61% สู่ระดับ 5,844.61 จุด ดัชนี Nasdaq Composite ร่วงลง 1.41% สู่ระดับ 18,872.64 จุด
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีล่าสุดซื้อขายที่ระดับ 5.09% ซึ่งแตะระดับสูงสุดเมื่อเดือนตุลาคม 2023 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานซื้อขายที่ระดับ 4.59%
พันธบัตรระยะยาวถูกเทขายเนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าร่างงบประมาณฉบับใหม่จะทำให้การขาดดุลของสหรัฐ แย่ลง คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะผ่านสภาเมื่อสมาชิกรัฐสภาบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการหักลดหย่อนภาษีของรัฐ และท้องถิ่นก่อนถึงวันรำลึกทหารผ่านศึก โดยร่างกฎหมายส่งถึงประธานสภา ไมค์ จอห์นสัน แล้ว
อัตราผลตอบแทนพุ่งสูงขึ้นอีกหลังจากการประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปีในช่วงบ่ายที่ย่ำแย่ ทำให้เกิดความกลัวว่านักลงทุนอาจสูญเสียความเชื่อมั่นในการซื้อพันธบัตรเพื่อชดเชยการขาดดุลของสหรัฐ
“คำถามตอนนี้ก็คือ จากมุมมองทางการคลัง ร่างกฎหมายภาษีจะมีลักษณะอย่างไร และจะทำลายความประหยัดทางการคลังในช่วงที่ผ่านมาทั้งหมดหรือไม่ เพียงแค่เพิ่มระดับหนี้ในอัตราที่ช้าลงเท่านั้น ดังนั้น ผมคิดว่านั่นคือเหตุผลที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีจึงขยับสูงขึ้น เพราะนักลงทุนกังวลว่าเราไม่ได้ทำอะไรเลยเพื่อชะลออัตราเงินเฟ้อ และลดหนี้” แซม สโตวอลล์ หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของ CFRA Research กล่าวกับซีเอ็นบีซี
“ตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะมีโอกาสมากขึ้นที่ร่างกฎหมายภาษีจะผ่านสภา และนั่นอาจทำให้ระดับหนี้โดยรวมยังคงเพิ่มขึ้นต่อไป” เขากล่าวต่อ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งสูงขึ้นในเดือนที่แล้ว เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ความเชื่อมั่นในสถานะที่ปลอดภัยของหนี้ของสหรัฐ ลดลง พันธบัตร 10 ปีในเดือนเมษายนพุ่งขึ้นจากต่ำกว่า 3.9% เป็นมากกว่า 4.5% ในเวลาเพียงไม่กี่วัน อัตราผลตอบแทนลดลงจากระดับดังกล่าว หลังจากทรัมป์ประกาศเลื่อนการบังคับใช้ภาษี
หุ้นของ Target ร่วงลง 5.2% หลังจากที่ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ปรับลดคาดการณ์ยอดขายทั้งปี โดยผู้บริหารอ้างถึงความไม่แน่นอนของภาษีศุลกากรและปฏิกิริยาตอบโต้ต่อการที่บริษัทลดการให้ความสำคัญนโยบายด้านความหลากหลาย ความเสมอภาค และการมีส่วนร่วม ด้านหุ้น UnitedHealth ซึ่งอยู่ในกระดานดาวโจนส์ ที่มีผลงานแย่ที่สุด โดยร่วงลง 5.8% หลังจาก HSBC ปรับลดอันดับความน่าลงทุน
ราคาหุ้นเทคโนโลยีหลักอย่าง Apple และ Amazon ก็ร่วงลงเช่นกัน เนื่องจากแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่กลับมาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง
การเคลื่อนไหวในวันพุธเกิดขึ้นหลังจากที่ดัชนีหลักทั้งสามตัวมีการซื้อขายที่แผ่วลง โดยในวันอังคาร S&P 500 สิ้นสุดการขึ้นติดต่อกัน 6 วัน ขณะที่ Nasdaq พบว่าเป็นวันที่ติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วัน
ค่าดัชนีหลักทั้งสองตัวฟื้นตัวอย่างรวดเร็วตั้งแต่การเทขายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งกลืนตลาดหลังจากที่ทรัมป์เปิดเผยกำแพงภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าที่นำเข้า S&P 500 และ Nasdaq พุ่งขึ้นมากกว่า 13% และ 18% ตามลำดับในเดือนที่ผ่านมา
“นักลงทุนบางส่วนกังวลเล็กน้อยว่าเราไปไกลเกินไป เร็วเกินไป และถึงเวลาที่จะประเมินการปรับขึ้นของหุ้นในช่วงหลังนี้” สโตวอลล์ กล่าวเสริม
- คาดดุลงบประมาณพุ่งเกิน 6% ของจีดีพี
บลูมเบิร์กรายงานว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรได้รับผลกระทบหลังจากการประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปีที่อ่อนแอ ซึ่งอัตราคูปอง 5% ถือเป็นอัตราสูงสุดนับตั้งแต่มีการนำพันธบัตรอายุดังกล่าวกลับมาใช้ใหม่ในปี 2020 หนี้ระยะยาวเป็นผู้รับภาระหนักที่สุดในการขาย โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีพุ่งขึ้นมากกว่า 10 เบซิสพอยท์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 11 จุด เป็นประมาณ 4.6% ส่วนดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ โดยดัชนีดอลลาร์ลดลง 0.3%
“เราคาดว่าความเสี่ยงทางการคลัง และการขาดดุลจะคงอยู่ต่อไป เนื่องจากข้อเสนอเกี่ยวกับงบประมาณบ่งชี้ว่าการขาดดุลจะยังคงสูงกว่า 6% ของจีดีพี แม้ว่าเศรษฐกิจจะแข็งแกร่ง และมูลค่าหุ้นก็เกือบสองเท่าของระดับในปี 2554 เมื่อบริษัทจัดอันดับ S&P ลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลง ขณะนั้นสหรัฐขาดดุลหลังวิกฤติการเงินสูงกว่า 8% ของจีพีดี” สจ๊วร์ต ไคเซอร์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การซื้อขายหุ้นสหรัฐ ของกลุ่มการเงิน Citigroup กล่าว
เมื่อวันพุธ พรรครีพับลิกันมีความคืบหน้าในการผลักดันร่างกฎหมายของทรัมป์ โดย ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรประกาศว่าเขามีข้อตกลงกับสมาชิกรัฐสภาจากรัฐที่มีภาษีสูงในการเพิ่มเพดานการหักลดหย่อนภาษีของรัฐ และท้องถิ่นเป็น 40,000 ดอลลาร์ โดยชนะใจสมาชิกกลุ่มสำคัญที่ขู่จะขัดขวางกฎหมายดังกล่าว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







