PTT Q1/68 กำไรลด 20 % ที่ 2.3 หมื่นล้าน ขาดทุนบริษัทลูก-ก๊าซต้นทุนเพิ่ม Single Pool

PTT Q1/68 กำไรลด 20 % ที่ 2.3 หมื่นล้าน ขาดทุนบริษัทลูก-ก๊าซต้นทุนเพิ่ม Single Pool

PTT รายงานกำไร Q1/68 ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท ลดลงเกือบ 20 % จาก Q1/67 รับรู้ขาดทุนบริษัทลูกและต้นทุนก๊าซเพิ่มจาก Single Pool

      

          บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT  รายงานผลประกอบการในไตรมาส 1 ปี 2568 มีกําไรจากการดําเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและ ค่าตัดจําหน่าย ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้ (EBITDA) จํานวน 93,527 ล้านบาท ลดลง 25,190 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.2 จากไตรมาส 1 ปี 2567 ที่จํานวน 118,717 ล้านบาท

         โดยหลักจากกลุ่มธุรกิจปิ โตรเคมีและการกลั่น โดยธุรกิจ การกลั่นมีผลการดำเนินงานลดลงจากกำไรขั้นต้นจากการกลั่น (Market GRM) ที่ลดลง ประกอบกับ Crude Premium ที่ปรับเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ใน 1Q2568 ปตท. และบริษัทย่อยมีกำไรสต๊อกนามันสุทธิกับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับของสินค้าคงเหลือประมาณ  1,500 ล้านบาท ขณะที่ใน 1Q2567 มีกำไรประมาณ  2,600 ล้านบาท

           กําไรสุทธิ ของ ปตท. และบริษัทย่อยใน 1Q2568 มีจํานวน 23,315 ล้านบาท ลดลง 5,653 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.5 จากกําไรสุทธิ จํานวน 28,968 ล้านบาท ใน 1Q2567จาก EBITDA ที่ลดลงตามกล่าวข้างต้น แม้ว่ากำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น และขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ลดลง ประกอบกับใน 1Q2568 มีการรับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจํา (Non-recurring Items) สุทธิภาษีตาม สัดส่วนของ ปตท. เป็นขาดทุนประมาณ 200 ล้านบาท

           

           กําไรสุทธิของ ปตท. และบริษัทย่อยใน 1Q2568 มีจํานวน 23,315 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14,004 ล้านบาท หรือมากกว่าร้อยละ 100.0 จากกําไรสุทธิจํานวน 9,311 ล้านบาทใน 4Q2567 ตาม EBITDA ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวข้างต้น รวมทั้งมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น และ ขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ลดลง ประกอบกับใน 1Q2568 มีการรับรู้ Non-recurring Items สุทธิภาษีตามสัดส่วนของ ปตท. เป็น ขาดทุนประมาณ 200 ล้านบาท

         โดยหลักจากส่วนแบ่งผลขาดทุนจากการด้อยค่าสุทธิกับการกลับรายการด้อยค่าเงินลงทุนของ UCHA ของ IRPC ขณะที่ใน 4Q2567 มีการรับรู้รายการ Non-recurring Items สุทธิภาษีตามสัดส่วนของ ปตท. เป็นขาดทุนประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยหลักจากประมาณการหนี้สินจากค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตของกลุ่มบริษัท Vencorex และบริษัท พีทีที อาซาฮี เคมิคอล จำกัด (  PTTAC) ของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ( GC) ประมาณ 2,200 ล้านบาท และค่าใช้จ่าย ตอบแทนส่วนแบ่งกำไรสำหรับบริหารการลงทุนและสร้างมูลค่าเพิ่ม  PTTGM ประมาณ 2,200 ล้านบาท

          ธุรกิจปิโตรเคมีมีผลการดำเนินงานลดลงโดยหลักจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบของกลุ่มอะโรเมติกส์ที่ปรับตัวลดลง อีกทั้งกลุ่มธุรกิจสํารวจและผลิตปิ โตรเลียมมีผลการดำเนินงานลดลงจากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดำเนินงานลดลง เช่นกัน

          โดยหลักจากธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ มีกำไรขั้นต้นลดลงจากต้นทุนขายเพิ่มขึ้นอย่างมากจากผลกระทบของการเริ่มคำนวณต้นทุนราคาก๊าซฯ ด้วยนโยบาย Single Pool ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 เป็นต้นมา แม้ว่าปริมาณขายรวมปรับเพิ่มขึ้น ประกอบกับผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยในกลุ่มธุรกิจก๊าซฯ ปรับลดลง โดยหลักจากบริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด (PTTLNG) เนื่องจากมีการลดสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการ LNG Receiving Terminal แห่งที่ 2 (LMPT2) เป็นร้อยละ 50.0 เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2567

         โดยหลักจากส่วนแบ่งผลขาดทุนจากการด้อยค่าสุทธิกับการกลับรายการ ด้อยค่าเงินลงทุนของบริษัท อูเบะ เคมิคอลส์ (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) (  UCHA) ของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)  หรือ IRPC ขณะที่ใน 1Q2567 มีการรับรู้เป็นกําไรประมาณ 4,600 ล้านบาท โดยหลักจากกําไรจากการขายเงินลงทุนใน Alvogen Malta (Out-licensing) Holding Ltd. (AMOLH) ของบริษัท ปตท. โกลบอล แมนเนจเม้นท์ จำกัด  (PTTGM)

           ใน 1Q2568 ปตท. และบริษัทย่อยมี EBITDA จํานวน 93,527 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  236 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.3 จาก ไตรมาส 4 ปี 2567 (4Q2567) ที่จํานวน 93,291 ล้านบาท โดยหลักจากกลุ่มธุรกิจปิ โตรเคมีและการกลั่น โดยธุรกิจปิโตรเคมี มีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น  จากต้นทุนวัตถุดิบที่ดีขึ้นและส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบของกลุ่มโอเลฟินส์ที่ปรับเพิ่มขึ้น

         ขณะที่ ธุรกิจการกลั่นลดลงจาก Market GRM ที่ปรับลดลง จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงเกือบทุกผลิตภัณฑ์และ Crude Premium ที่ปรับเพิ่มขึ้น แม้ว่าใน 1Q2568 ปตท. และบริษัทย่อยมีกำไรสต๊อกนามันสุทธิกับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับของสินค้าคงเหลือประมาณ 1,500 ล้านบาท ขณะที่ใน 4Q2567 มีกำไรประมาณ 1,000 ล้านบาท                     นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจนํ้ามันและการค้าปลีกมีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นโดยหลักจากกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรของน้ำมันอากาศยาน น้ำมันดีเซล และน้ำมันเบนซิน อย่างไรก็ตาม ผลการดาเนินงานของกลุ่มธุรกิจสํารวจและผลิตปิ โตรเลียมปรับลดลงจากปริมาณขายและราคาขายเฉลี่ยที่ปรับลดลง

          รวมถึงธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดำเนินงานลดลง โดยหลักจากธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ มีกำไรขั้นต้นลดลง จากต้นทุนค่าเนื้อก๊าซฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคา Pool Gas ประกอบกับปริมาณขายลดลง แม้ว่าธุรกิจระบบท่อส่งก๊าซฯ มีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น โดยหลักจากค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงที่ลดลง

        นอกจากนี้ ธุรกิจจัดหาและค้าส่งก๊าซฯ มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากราคาขายเฉลี่ยที่ เพิ่มขึ้น ประกอบกับค่าใช้จ่ายขายและบริหารปรับลดลง แม้ว่าต้นทุนก๊าซฯ ปรับเพิ่มขึ้นและปริมาณขายรวมปรับลดลง