‘หุ้นจีน’ ร่วงเฉียด 2% หวั่นปักกิ่งลดแรงจูงใจกระตุ้นเศรษฐกิจ

ดัชนี Hang Seng ร่วง 1.9% เหตุนักลงทุนกังวลจีนอาจไม่เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐได้ระดับหนึ่งแล้ว
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (13 พ.ค.) ว่า หุ้นจีนในฮ่องกงร่วงเมื่อวันอังคาร หลังความหวังเริ่มแรกจากการพักรบทางภาษีกับสหรัฐเปลี่ยนเป็นความกังวลว่าปักกิ่งอาจไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วน โดยดัชนี Hang Seng China Enterprises ร่วงลงมากถึง 1.9% หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 3% ในภาคการซื้อขายก่อนหน้า จากแถลงการณ์ร่วมสองประเทศขณะที่ ดัชนี CSI 300 ในจีนแผ่นดินใหญ่ก็ปรับตัวลงเช่นกัน
ดัชนี Hang Seng ณ เวลา 12.03 ตามเวลาประเทศไทย
บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก เผยว่า การลดลงครั้งนี้ สะท้อนความกังวลว่าผู้กำหนดนโยบายจีนอาจรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพมากนัก โดยเฉพาะการใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อพยุงเศรษฐกิจที่ชะลอตัว นอกจากนี้ยังเป็นสัญญาณว่านักลงทุนกำลังหันไปให้ความสนใจกับผลกระทบที่แท้จริงของภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่ยังคงสูงอยู่ รวมถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาทวิภาคีเพิ่มเติมในเดือนข้างหน้า
"ความจริงคือจีนมีแรงจูงใจน้อยลงในการริเริ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือเพิ่มการใช้จ่ายงบประมาณ ดังนั้นความหวังว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญในจีนจึงพังทลาย" ซาท ดูห์รา ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอของ Janus Henderson Investors กล่าว
ทั้งนี้ สหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า จะลดภาษีสินค้าจีนเหลือ 30% จาก 145% เป็นเวลา 90 วัน ขณะที่ปักกิ่งตกลงที่จะลดภาษีสินค้าส่วนใหญ่เหลือ 10% ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่าจีนตกลงที่จะยกเลิกอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษีสำหรับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจมีการให้สัมปทานมากขึ้นหากการเจรจามีความคืบหน้า
นอกจากนี้ การร่วงลงครั้งล่าสุดของดัชนีฮ่องกงหมายความ ดัชนีฯ ว่ายังไม่สามารถชดเชยการขาดทุนทั้งหมดที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย. เมื่อทรัมป์ประกาศกำหนดภาษีอย่างรุนแรงได้ นอกจากนี้ยังบั่นทอนความหวังในการฟื้นฟูการปรับตัวขึ้นของหุ้นจีนที่ทำผลงานเหนือตลาดโลกเมื่อต้นปีนี้







