‘ThaiESGX’ ช่วงไอพีโอแรงซื้อเบาบาง ลุ้นเงิน LTF สวิตช์เข้า

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย และในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เปิดเผยว่า หลังจากกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESG Extra Fund หรือ ThaiESGX) เปิดเสนอขาย IPO ตั้งแต่ 2 พ.ค.และปิดเสนอขาย IPO เมื่อ 8 พ.ค. ที่ผ่านมานี้ พบว่า ภาพรวมยังมีเม็ดเงินใหม่เข้ามาเบาบาง โดยในส่วนของ บลจ.กรุงไทย มีเงินเข้ามาไม่ถึง 100 ล้านบาท  

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเสนอขาย IPO กองทุน ThaiESGX นี้ เรายังไม่ได้คาดหวังเม็ดงินมากนักอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นช่วงที่บลจ. ดำเนินการจัดตั้งกองทุน Thai ESGX กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้แล้วเสร็จและเตรียมความพร้อม รวมถึงในช่วง เปิดเสนอขาย IPO ถือว่าอยู่ในช่วง 1-2 เดือนนี้ (พ.ค.-มิ.ย.) พบพฤติกรรมของประชาชนเน้นการใช้จ่ายเงิน มากกว่า เช่น ช่วงเปิดเทอม ซึ่งยังไม่ใช่ช่วงของการนำเงินมาลงทุน

อีกทั้ง ในช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีขึ้นเหนือ 1,200 จุด เป็นปัจจัยบวกให้นักลงทุน มุ่งเน้นกลยุทธ์ขายทำกำไรกองทุนแล้วน่าจะเก็บเงินไว้ก่อน

เรามองว่า ถือเป็นโอกาสของกองทุน ThaiESGX ในระยะถัดไป คาดว่า หลังจากนี้ 1-2 เดือนน่าจะเม็ดเงินไหลเข้ากองทุน ThaiESGX ชัดเจนขึ้น ทั้งเม็ดเงินใหม่ส่วนหนึ่ง  แต่ บลจ.ต่างๆ คาดหวังเม็ดเงินส่วนใหญ่ ที่จะเข้ามาจากการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนจากการกองทุน LTF ที่จะสามารถดำเนินการได้ภายหลังช่วง IPO คือตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.-30 มิ.ย. 68

ดังนั้น หลังจากนี้ บลจ. ต่างๆ คงจะเน้นทำการประชาสัมพันธ์กองทุน ThaiESGX ให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบมากขึ้น สำหรับบลจ.กรุงไทย คาดหวังเม็ดเงินจากการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนกองทุนLTF ตั้งเป้าหมาย 80% ของลูกค้าทั้งหมด

"สมาคมฯ ประมาณการเม็ดเงินเข้ามาในกองทุน ThaiESGX ที่10,000 ล้านบาทแรกก่อน คาดว่า ส่วนใหญ่จะเป็นเม็ดเงินจากการสับเปลี่ยนกองทุน LTFเข้ามา คงรอติดตามหลัง 13 พ.ค. เป็นต้นไป ที่จะเริ่มน่าจะเห็นภาพโอนเงินเข้าในกองทุน ThaiESGX ที่ชัดเจนขึ้น“

 นาย วิน พรหมแพทย์  ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย กล่าวว่า ภาพรวมกองทุน ThaiESGX  คาดว่าจะมีเม็ดเงินใหม่ไหลเข้ามาราม 15,000 ล้านบาท ส่วนที่เป็นกองทุน LTF เดิม คาดจะมีการสลับเปลี่ยนหน่วยลงทุนมาราว 1 ใน 3  น่าจะยังเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย ทำให้ช่วยลดแรงขายไปได้ ซึ่งหลังจากที่มีการประกาศกองทุนดังกล่าวออกมาก็ทำให้เกิดแรงเทขายกองทุน LTF ไปได้ค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามภาพรวมยังคงเป็นบวกมากกว่าลบ