OR โผล่บิ๊กล็อต 2 พันล้าน ตลาดจับตากระทรวงคลัง ขายปรับพอร์ต

OR โผล่บิ๊กล็อต  2 พันล้าน ตลาดจับตากระทรวงคลัง ขายปรับพอร์ต

OR โผล่บิ๊กล็อต มูลค่า 2 พันล้านบาท ตลาดจับตา3ผู้ถือหุ้นใหญ่เทขาย โบรกชี้ กระทรวงคลัง มีโอกาสสูง ขายปรับพอร์ตทำกำไร ลดการถือหุ้นในสัดส่วนที่ไม่มีนัยสำคัญตามข้อบังคับ

ตลาดหุ้นไทยวันวานนี้ (8 พ.ค.68) พบมีการซื้อขายบิ๊กล็อต 14 หลักทรัพย์ 20 รายการ พบ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จํากัด (มหาชน) หรือ OR  มีมูลค่าสูงสุด 2,223.57 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 14.50 บาท

ทั้งนี้ ตลาดติดตามการซื้อขาย หากพิจารณาภาพรวมข้อมูลผู้ถือหุ้นล่าสุดของบริษัทอ้างอิงตามตลาดหลักทรัพย์ฯ ณ วันที่ 25 ก.พ.2568 พบว่ารายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 รายที่มีโอกาสเทขายหุ้น

โดยผู้ถือหุ้นอันดับ 1 . บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มูลค่า 9,000 ล้านหุ้น สัดส่วน75% 2. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด มูลค่า 372.80 ล้านหุ้น สัดส่วน 3.11%  3.กระทวงการคลัง มูลค่า 153.34 ล้านหุ้น  สัดส่วน1.28%

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล. ยูโอบี เคย์เฮียน เปิดเผยว่า สำหรับการขายซื้อบิ๊กล็อต OR ขณะนี้ยังยืนยันไม่ได้ว่าเป็นกระทรวงการคลังขายบิ๊กล็อตออกมาหรือไม่ แต่ด้วยมูลค่าหุ้นที่รายงานออกมา มีโอกาสสูงที่เป็น กระทรวงการคลัง  

เนื่องจาก กระทรวงการคลัง อาจจะขายออกมา มีเหตุก็มีเหตุผลตามแนวทางของกระทรวงการคลังต้องการปรับพอร์ตลงทุน ที่กระรวงการคลังถือหุ้นอยู่เดิม แต่ถือในสัดส่วนที่ไม่มีนัยสำคัญตามข้อบังคับที่กระทรวงการคลังต้องเข้าถือหุ้นในสัดส่วนเกิน 50% 

ในภาวะเช่นนี้กระทรวงการคลัง คงจะมีการทบทวนแล้ว คงจะมีการปรับพอร์ตขายทำกำไรออกไป เพราะสำหรับการเข้าถือหุ้นที่กระทรวงการคลังไม่จำเป็นต้องนั่งในบอร์ด ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เนื่องจาก OR เป็นบริษัทลูกของปตท. ซึ่งสามารถดูแลทางอ้อม ให้นโยบายจากทางปตท.ได้อยู่แล้ว และการขายหุ้นออกราว1%  ก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อธุรกิจOR 

“การขายหุ้นในส่วนของกระทรวงการคลัง น่าจะเปลี่ยนการถือหน่วยลงทุนเล็กๆน้อยๆ ส่วนนี้ให้เป็นเงินกลับเข้ามา ในจังหวะที่ OR รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2568 ออกมาดี ในขณะที่ไตรมาส 2/2568 มีแนวโน้มอาจจะชะลอตัวลงตามฤดูกาลได้"

นายรัฐศักดิ์ พิริยะอนนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ธุรกิจ OR ปีนี้ เราคาดผลประกอบการเติบโตสูงราว 50% หนุนจากฐานต่ำปีก่อน ที่ทั้ง oil margin และ sales volume ลดลง ปีนี้คาดปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะปีนี้มีใช้กลยุทธ์การตลาดเพิ่มมากขึ้นเช่น มีแจกของแจกน้ำเพื่อดึงดูดลูกค้า นอกจากนี้รายการพวกค่าใช้จ่ายต่างๆคาดปรับลดลง จากการควบคุมค่าใช้จ่าย ทั้งค่าโฆษณา ค่ามาร์เก็ตติ้ง รวมถึงมีการปิดธุรกิจยูนิตที่ไม่ทำกำไรเช่น Texas และ Kouen 

ด้านผลประกอบการ ไตรมาส 1/2568 ออกมาแข็งแกร่งตามคาดเติบโตแรง 46% QoQ และ 4,175% YoY, ผลประกอบการ ไตรมาส 2/2568 อาจชะลอตัว QoQ ตาม oil margin ที่ปรับตัวลง และ inventory loss แต่คาดจะกลับมาฟื้นตัวแรงอีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง