ดาวโจนส์บวก 200 จุด หลังทรัมป์ประกาศข้อตกลงการค้ากับอังกฤษ

ดาวโจนส์บวก 200 จุด หลังทรัมป์ประกาศข้อตกลงการค้ากับอังกฤษ

หุ้นสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นในวันพฤหัสบดี หลังประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศกรอบข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและอังกฤษ เป็นข้อตกลงสำคัญฉบับแรก หลังสหรัฐขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า

บลูมเบิร์ก/ซีเอ็นบีซี รายงานภาวะตลาดหุ้นวอลล์สตรีทวันพฤหัสบดี (8 พ.ค.68) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทยว่า หุ้นสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นในวันพฤหัสบดี หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศกรอบข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ และอังกฤษ ซึ่งเป็นข้อตกลงสำคัญครั้งแรกที่เกิดขึ้นตั้งแต่สหรัฐเริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากทั่วโลกในช่วงต้นปีนี้

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average

ปิดตลาดที่ 41,368.45 จุด เพิ่มขึ้น 254.48 จุด หรือ 0.62% ดัชนี S&P 500

ปิดตลาดที่ 5,663.94 จุด เพิ่มขึ้น 0.58% ดัชนี Nasdaq Composite

ปิดตลาดที่ 17,928.14 จุด เพิ่มขึ้น 1.07%

ด้านดัชนี Nasdaq 100 เพิ่มขึ้น 1% และดัชนี Russell 2000 เพิ่มขึ้น 1.8%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 11 เบซิสพอยท์เป็น 4.38% การขายพันธบัตรอายุ 30 ปีมูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ไม่คึกคักนักก็ส่งผลกระทบต่อตลาดเช่นกัน เงินดอลลาร์แข็งค่า โดยดัชนี Bloomberg Dollar Spot เพิ่มขึ้น 0.6%

ทรัมป์ประกาศโครงร่างข้อตกลงการค้าดังกล่าวจากห้องทำงานรูปไข่กับนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เคียร์ สตาร์เมอร์ ผ่านระบบโทรศัพท์ โดยอัตราภาษีนำเข้าพื้นฐาน 10% เก็บจากสินค้าอังกฤษจะยังคงอยู่ ตามภาพกราฟิกที่ทรัมป์โพสต์ลงบน Truth Social

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีได้ตั้งข้อสังเกตว่าภาษีนำเข้าจากสหราชอาณาจักร 10% อาจอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับข้อตกลงที่ทำกับประเทศต่างๆ ในอนาคต และกล่าวว่า “บางประเทศจะสูงกว่านี้มาก เนื่องเกินดุลการค้ากับสหรัฐมหาศาล”

แต่การประกาศข้อตกลงการค้าขาดรายละเอียด และไม่มีการลงนามใดๆ ในระหว่างการแถลงข่าว

“รายละเอียดขั้นสุดท้ายกำลังถูกเขียนขึ้น” ทรัมป์กล่าว “ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เราจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน”

ทรัมป์หวังบรรลุข้อตกลงกับจีนดัชนีหลักแตะระดับสูงสุดในการประชุม โดยทรัมป์กล่าวว่าเขาคาดหวังว่าผู้เจรจาของสหรัฐ จะมี “สุดสัปดาห์ที่ดี” กับจีนในระหว่างการเปิดเจรจาการค้า

สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และจามีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ เตรียมพบกับตัวแทนฝ่ายจีนที่สวิตเซอร์แลนด์ในสุดสัปดาห์นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นการค้า และเศรษฐกิจ ทรัมป์เพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 145% แม้ว่าเขาจะลดภาษีแบบ “ตอบโต้” กับคู่ค้าทางการค้าอื่นๆ ของสหรัฐ ส่วนใหญ่ก็ตาม เจ้าหน้าที่จีนกล่าวเมื่อวันพุธว่าการประชุมที่จะมีขึ้นนี้ได้รับการร้องขอจากรัฐบาลทรัมป์

“มีความหวังมากขึ้นว่าข้อตกลงต่างๆ จะสามารถเกิดขึ้นได้ก่อนที่ช่วงระงับการเก็บภาษีดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันที่ 9 กรกฎาคม” แซม สโตวอลล์ หัวหน้านักกลยุทธ์ด้านการลงทุนของบริษัทวิจัย CFRA กล่าว “อย่างไรก็ตาม การเริ่มการเจรจาอาจช่วยลดแรงกดดันที่รัฐบาลต้องสรุปข้อตกลงกับพันธมิตรทางการค้าอื่นๆ ในระยะสั้นได้”

หุ้นเทคโนโลยีปรับตัวสูงขึ้นทั้งแผงหลังจากที่รัฐบาลทรัมป์ประกาศเมื่อวันพุธว่าจะยกเลิกข้อจำกัดด้านชิปในยุคของไบเดน หุ้นของ Alphabet

พุ่งขึ้นเกือบ 2% ในวันพฤหัสบดี หลังจากที่บริษัทออกแถลงการณ์ว่า Google ยังคงเห็นการเติบโตของธุรกิจค้นหา ซึ่งเป็นการแย้งกับรายงานข่าวเมื่อวันพุธที่อ้างถึงผู้บริหารของ Apple ที่ระบุว่าการค้นหาบนเบราว์เซอร์ Safari ลดลง เนื่องจากผู้คนใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากขึ้น

หุ้น Boeing พุ่งขึ้น 3% หลังจากที่  ฮาวเวิร์ด ลัทนิค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์แนะนำว่าข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ และอังกฤษ จะส่งผลให้มีการสั่งซื้อเครื่องบินโบอิง (Boeing) มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์

การเคลื่อนไหวในวันพฤหัสบดีเกิดขึ้นหลังจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยนักลงทุนเริ่มประเมินนโยบายล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และเฝ้าติดตามสัญญาณความคืบหน้าของข้อตกลงการค้า ผู้ค้าในตลาดต่างแสดงความกังวลเพิ่มขึ้นว่าสงครามการค้าโลกอาจส่งผลให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยิ่งเลวร้ายลง

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์