GPSC ทำกำไร Q1/68 โต 32% ที่ 1,140 ลบ. จากค่าใช้จ่ายลด-รับส่วนแบ่งกำไรเพิ่ม

GPSC ทำกำไร Q1/68 โต 32% ที่ 1,140  ลบ. จากค่าใช้จ่ายลด-รับส่วนแบ่งกำไรเพิ่ม

GPSC รายงานกำไร Q1/68 รายได้ ที่ 1,140 ล้านบาท โต 14 % จากต้นทุนผลิตลดลง เงินปันผลรับและส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม และการร่วมค้าเพิ่มขึ้น 105 ล้านบาท

KEY

POINTS

 

       

 

   

          

        บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)  หรือ GPSC  ผลประกอบการ ในไตรมาสที่1 ปี 2568  กำไรสุทธิของบริษัทฯ จำนวน 1,140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 276 ล้านบาทหรือ ร้อยละ 32 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2567 สาเหตุหลักมาจาก เงินปันผลรับและส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม และการร่วมค้า จำนวน 121 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105 ล้านบาท (ไตรมาสที่ 1 ปี 2567:16 ล้านบาท) สาเหตุหลักมาจาก โรงไฟฟ้า XPCL 

         จากปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจากปรากฏการณ์ลานีญา AEPL มีผลประกอบการ ดีขึ้นตามปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่สูงขึ้นตามค่าความเข้มแสงที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับมีโครงการที่เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น CFXD มี ผลประกอบการลดลง จากการรับรู้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยหลังจากการดำเนินการเชิงพาณิชย์เต็มจำนวนในเดือนมกราคม 2568

       โดยขณะที่ รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากมีกำลังการผลิตที่ดีขึ้นจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์จาก 30 ต้น จากในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 เป็นจำนวน 62 ต้นในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อย่างไรก็ตามกังหันลมบางส่วนจำนวน 28 ต้นเดินเครื่องไม่เต็มประสิทธิภาพและอยู่ ระหว่างการซ่อมบำรุงที่อยู่ใต้การรับประกันผลงานจากผู้รับเหมา TSR มีผลประกอบการลดลง 44 ล้านบาทจาก 64 ล้านบาทในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 เป็น 20 ล้านบาทในไตรมาสที่ 1 ปี 2568

    

       

         

      จากราคาขายไฟฟ้าปรับลดลงเนื่องจาก Adder หมดอายุทั้งหมดในเดือนมิถุนายนปี 2567 ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ จำนวน 67 ล้านบาท ลดลง 73 ล้านบาทหรือร้อยละ 52 สาเหตุหลักเนื่องจากรายการปรับปรุงภาษีเงินได้รอ ตัดบัญชีเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย จ านวน 2,324 ล้านบาท ลดลง 71 ล้านบาทหรือร้อยละ 3 สาเหตุหลักมาจากค่าตัดจำหน่ายมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์สุทธิที่ได้จากการเข้าซื้อ GLOW ลดลงตามอายุสัญญา ต้นทุนทางการเงินจำนวน 1,380 ล้านบาท ลดลง 41 ล้านบาทหรือร้อยละ 3 ตามเงินกู้ยืมของกลุ่มกิจการที่ลดลงจากการจ่ายชำระคืนเงินกู้ตามแผน กำไร ขั้นต้น จำนวน 5,249 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26 ล้านบาทหรือร้อยละ 1

          สาเหตุหลักมาจาก โรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) เพิ่มขึ้น 221 ล้านบาท จากต้นทุนก๊าซธรรมชาติและถ่านหินลดลง ประกอบกับความต้องการไฟฟ้าและไอน้ำของลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ทำให้กำไรผันแปร (Margin) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ผลการดำเนินงานในส่วนของ โรงไฟฟ้าผู้ผลิตอิสระ (IPP) ลดลง 167 ล้านบาท สาเหตุหลักจากโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน ได้รับค่าเชื้อเพลิงส่วนต่างลดลง (Energy Margin) ลดลง

        เนื่องจากในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 รายได้ค่า ถ่านหินที่สามารถเรียกเก็บจาก กฟผ ต่ำกว่าต้นทุนถ่านหินของบริษัทฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ขณะที่ขาดทุนจากอัตรา แลกเปลี่ยนสุทธิจำนวน 57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60 ล้านบาท (ไตรมาสที่ 1 ปี 2567: กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 3 ล้านบาท) จากค่าเงินบาทแข็งค่า ส่งผลให้เกิดขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากการบันทึกปรับมูลค่าลูกหนี้ตามสัญญาเช่าทางการเงินของ โรงไฟฟ้าศรีราชาและโรงไฟฟ้าโกลว์ไอพีพี

           

    

         

        ขณะที่เทียบกับไตรมาส 4 ปี 2567 กำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 14  สาเหตุหลักเนื่องจากกำไรขั้นต้น จำนวน 5,249 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 407 ล้านบาทหรือ ร้อยละ 8 สาเหตุหลักมาจาก 1. การบริหารจัดการต้นทุนการผลิต 2. ปริมาณความต้องการไอน้ำของลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มสูงขึ้น 3. ค่าเบี้ย ประกันภัยโรงไฟฟ้าปรับตัวลดลง จากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพมากขึ้นในช่วง 1–2 ปีที่ผ่านมา บริษัทจึงได้รับการพิจารณาลดอัตราค่าเบี้ยประกันภัยจากบริษัทประกันภัย สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพการบริหารจัดการและความเสี่ยงที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

 

       ขณะที่เงินปันผลรับและส่วน แบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้า จำนวน 121 ล้านบาท ลดลง 352 ล้านบาทหรือร้อยละ 75 สาเหตุหลักมาจากเงินปันผลรับจำนวน 41 ล้านบาท ลดลง 78 ล้านบาทหรือร้อยละ 66 จากเงินปันผลรับจาก RPCL ที่ลดลงตามช่วงเวลาการจ่ายเงินปันผลปกติ โรงไฟฟ้า XPCL มีผลประกอบการลดลง จากปริมาการผลิตไฟฟ้าที่ลดลง เนื่องจากในช่วงไตรมาสที่ 1เป็นช่วงที่ปริมาณน้ำน้อยตาม ฤดูกาล