“DR” ปรับซื้อขายรับความฮอต 6 พ.ค.ไอพีโอเพิ่ม-แพลตฟอร์มเดียวบัญชีหุ้น

Depositary Receipts หรือ ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ DR เป็นหลักทรัพย์ประเภทหนึ่งที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ไทยเหมือนหุ้น ที่ออกโดยผู้ออก DR Issuer
Depositary Receipts หรือ ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ DR เป็นหลักทรัพย์ประเภทหนึ่งที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ไทยเหมือนหุ้น ที่ออกโดยผู้ออก DR Issuer กลายเป็นตัวเลือกการลงทุนที่กำลังจะ “ครองใจ” นักลงทุนที่ต้องการมองหาสินทรัพย์กระจายลงทุนนอกเหนือจากหุ้นในประเทศ
กระแสความร้อนแรงของ DR เริ่มโดดเด่นในช่วงปี 2567 และต่อเนื่องถึงปี 2568 หลังมีการเปิดการซื้อขายตั้งแต่ปี 2561 มี DR เพียง 1 หุ้น ซึ่งสามารถซื้อขายได้บนกระดานหลัก (Main Board) ด้วยการซื้อขายเป็นจำนวนเต็ม (ขั้นต่ำ 1 DR)จนปี 2567 ขึ้นมาอยู่ที่ 37 DR และไตรมาส 2 ปี 2568 ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 69 DR รวมทั้ง DRx เป็น Fractional DR ซื้อขายแต่ไม่ต้องเต็มจำนวนได้เปิดซื้อขายปี 2565 ในกระดาน ซื้อขายหน่วยย่อย (Odd-Lot Board) จำนวน 2 DRX ปัจจุบันขยับขึ้นมาอยู่ที่ 20 DRx
สำหรับหลักทรัพย์อ้างอิง ได้แก่ หุ้นรายตัว ,ดัชนี ETF . กอง REIT หรือกอง Infrastructure Fund หากเป็นหุ้นรายตัว โดยจำกัดในหุ้นต่างประเทศ 31 ประเทศที่ comply กับ IOSCO และเป็นสมาชิก WFF หรือ กลุ่ม GMS(market cap มากกว่า 2,000 ล้านบาท) ปัจจุบันสินทรัพย์ที่ใช้อ้างอิงอยู่ในหุ้นหรือดัชนีที่นักลงทุนมีความคุ้นเคยเพราะเป็นหุ้นหรือดัชนีระดับโลกที่มีการลงทุนจากนักลงทุนและสถาบันกองทุนจำนวนมาก
DR ส่วนใหญ่เป็นหุ้นชั้นนำในภูมิภาคเอเชียและยุโรป อยู่ในตลาดหุ้นฮ่องกง มี DR PINGAN บริษัทประกันยักษ์ใหญ่สัญชาติจีน,TENCEN บริษัทเทคให้บริการอินเตอร์เน็ต แอปพลิเคชั่น และเกมออนไลน์ ,XIAOMI บริษัทผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
หากอยู่ในตลาดหุ้นญี่ปุ่น TOYOTA เบอร์ 1ตลาดยานยนต์ ,NINTENDO ผู้ผลิตและขายเครื่องเกมพกพา เป็นต้น ส่วนใครสนใจหุ้นกลุ่มยุโรปมีจำนวนไม่น้อย อาทิ LVMH บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าหรู หรือ ASML ผู้ผลิตเครื่องผลิตชิปให้โรงงานทั่วโลก เป็นต้น
ส่วน DRX หุ้นและสินทรัพย์อ้างอิงในตลาดสหรัฐ เช่น NVIDIA ผู้ผลิตชิป CPU หรือการ์ดจอ อันดับ1 ของโลก , AMAZON ผู้นำ E-Commerce ธุรกิจ Cloud Computing หรือ TESLA ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของโลก และผู้นำเทคโนโลยี EV เป็นต้น
ด้วยหุ้นหรือสินทรัพย์ที่ใช้อ้างอิงใน DR ที่น่าสนใจและเป็นที่รู้จักระดับโลกทำให้การเติบโตในฐานะสินทรัพย์ลงทุนจึงเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ด้วยปัจจุบัน มูลค่ามาร์เก็ตแคปขึ้นมาอยู่ที่ 35,041 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 29,422 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19% ขณะที่มูลค่าการซื้อขายต่อวันเฉลี่ย 558 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 129%
โดยตั้งแต่ต้นปีถึง 22 เม.ย. 2568 DR และ DRX ที่ได้รับความนิยมจนติดอันดับการ "ซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก" คือ อันดับ 1. BABA80 เฉลี่ยที่ 108.55 ล้านบาท อันดับ 2.XIAOMI80 เฉลี่ยที่ 65.56 ล้านบาท และอันดับ3 BIDU80 เฉลี่ยที่ 61.42 ล้านบาท
ส่วน"มาร์เก็ตแคปใหญ่สุด" อันดับ1. FUEVFVND01 ที่ 5,755 ล้านบาท อันดับ 2. E1VFVN3001 ที่ 4,192 ล้านบาท และอันดับ 3. BABA80 ที่ 3,541 ล้านบาท ส่วนที่"ผลตอบแทนบวกมากที่สุด" อันดับ 1. STEG 62.9% อันดับ 2.BYDCOM80 39.0% และอันดับ 3. BABA80 32.0% ทางกลับกัน"ผลตอบแทนลดลงมากสุด" อันดับ1.TSLA80X ติดลบ 49.3% อันดับ2. AMD80X ติดลบ 34.9% และอันดับ 3. AVGO80X ติดลบ 34.6%
การพัฒนาการ DR ปี 2568 ยังก้าวกระโดดและปรับให้การซื้อขายได้ง่ายขึ้น “ดร.รินใจ ชาครพิพัฒน์” รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานการตลาด ตลท.กล่าวถึง การปรับเปลี่ยนเพิ่มโอกาสลงทุนใน DR และสะดวกมากขึ้น DR ที่อ้างอิงหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในทวีปอเมริกาและยุโรป ให้ “สามารถซื้อขายได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ”ตั้งแต่เวลา 10.00-16.30 น. และ 19.00-03.00 น. (ของวันถัดไป) เริ่ม 6 พ.ค.2568 เป็นต้นไป ขณะที่ DR เอเชีย ยังคงซื้อขายในเวลากลางวันเช่นเดิมซึ่งสอดคล้องตามเวลาประเทศไทย
สำหรับ DRx จะถูกย้ายไปซื้อขายรวมกับ DR โดยอัตโนมัติในวันที่ 6 พ.ค. เช่นกัน และเริ่มซื้อขายตามเวลาใหม่ของ DR ตั้งแต่ 10.00 น. ของวันเดียวกัน ซึ่งการปรับปรุงบริการในครั้งนี้ จะทำให้ผู้ลงทุนสามารถติดตามราคาและส่งคำสั่งซื้อขาย DR ทั้งหมดได้ในทุกแพลตฟอร์มซื้อขายของบริษัทหลักทรัพย์โดยใช้บัญชีซื้อขายหุ้นที่มีในปัจจุบัน
หากเป็นนักลงทุน DRX ที่ตั้งแต่เช้าวันที่6 พ.ค. จะถูกเปลี่ยนเป็น DR โดยอัตโนมัติ ซึ่งยังคงได้รับจำนวนหน่วยและมูลค่าลงทุนเท่าเดิม กรณีมีเศษหน่วยระบบจะปัดเศษขึ้นอัตโนมัติ และสัญญาลักษณ์ X จะถูกตัดออก ทั้งนั้นนักลงทุนสามารถส่งคำสั่งซื้อขาย DR ใหม่ตั้งแต่ 6 พ.ค. เวลา9.30น. ด้วยบัญชีการซื้อขายแพลตฟอร์มเดียวกับหุ้นภายใต้บัญชีเดียวกับการซื้อขายหุ้นด้วยเช่นกัน
“กระแสความสนใจทำให้เดือน พ.ค. เดือนเดียวมี DR ใหม่เข้ามาซื้อเพิ่ม 30 หุ้นและมี Issuers เพิ่มอีก 5 ราย สะท้อนความต้องการกระจายลงทุนในหุ้นต่างประเทศไม่ติดเกณฑ์ตลาดหุ้นต่างประเทศเพราะซื้อขายในตลาดหุ้นไทย ซึ่งผู้ออกจะมีการหาหุ้นที่ีมีพื้นฐานและสภาพคล่องดีเข้ามาลง ล่าสุดมีการออกสินค้าใหม่เข้ามาเพิ่ม Leverage และ Inverse ซึ่สามารถป้องกันความเสี่ยงขาขึ้นและขาได้ เบื้องต้นจะอ้างอิงกับ SET 50ก่อน ”






