KEX เตรียมเพิกถอนจาก 'ตลาดหุ้น' นัดประชุมผู้ถือหุ้น 20 มิ.ย.นี้

KEX เตรียมเพิกถอนจาการเป็นบจ. ตามเจตนาของ "SFTH" ผู้ถือหุ้นใหญ่ พร้อมทำเทนเดอร์ฯ หุ้นที่เหลือ 651 ล้านหุ้น ในราคาเสนอซื้อหุ้นที่ 1.50 บาทต่อหุ้น นัดประชุมผู้ถือหุ้น 20 มิ.ย. นี้
บริษัท เคอีเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 4/2568 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 มีมติเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น พิจารณาและอนุมัติการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทฯ จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
สืบเนื่องจากที่บริษัทฯ ได้รับหนังสือแสดงเจตนา ฉบับลงวันที่ 30 เมษายน 2568 จากบริษัท เอสเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จํากัด (SFTH) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ (ณ วันที่ 7 มีนาคม 2568 SFTH ถือหุ้นในบริษัทฯ จํานวนทั้งสิ้น 2,853,952,489 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 81.43 ของหุ้นที่ออกจําหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ) เสนอให้บริษัทฯ เพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทฯ จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยสมัครใจ
และแจ้งความประสงค์ที่จะเป็นผู้ทําคําเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทฯ ที่ไม่ได้ถือโดย SFTH ซึ่งรวมเป็นจํานวนทั้งสิ้น 651,017,806 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 18.57 ของหุ้นที่ออกจําหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ เพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทฯ จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในราคาเสนอซื้อหุ้นที่ราคา 1.50 บาทต่อหุ้น (คําเสนอซื้อ เพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ฯ) ทั้งนี้ ราคาเสนอซื้อหุ้นดังกล่าวเป็นราคาที่ไม่ต่ํากว่าราคาสูงสุดที่คํานวณได้ตามวิธีการกําหนด
อย่างไรก็ดี ภายหลังการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทฯ จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทฯจะยังมีสถานะเป็นบริษัทมหาชนจํากัด และจะยังคงปฏิบัติตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่ใช้บังคับต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในการนี้ SFTH จะดําเนินการทําคําเสนอซื้อเพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ฯ ภายหลังจากที่เงื่อนไขบังคับก่อนดังต่อไปนี้สําเร็จ ครบถ้วนทุกประการ
บริษัทฯ จะดำเนินการให้มีการชี้แจง (Presentation) โดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระของบริษัทฯ เพื่อให้ความเห็นและคำเสนอแนะเกี่ยวกับการขอเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทฯ จากการเป็นหลักทรัพย์จด ทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2568 ในวันที่ 20 มิถุนายน 2568







