ดาวโจนส์ , S&P 500 ร่วงลงเป็นเดือนที่ 3 แต่ปิดบวกในวันพุธ 30 เมษายน  

ดาวโจนส์ , S&P 500 ร่วงลงเป็นเดือนที่ 3 แต่ปิดบวกในวันพุธ 30 เมษายน  

ดัชนีดาวโจนส์ , S&P 500 ร่วงลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน แม้ปิดบวกในวันพุธ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวในไตรมาสแรก นักลงทุนเริ่มกังวลเศรษฐกิจถดถอย

ซีเอ็นบีซี รายงานภาวะตลาดหุ้นวอลล์สตรีทวันพุธ (30 เม.ย.) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทยว่า ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันพุธท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังรายงานระบุเศรษฐกิจสหรัฐหดตัวในไตรมาสแรก และนักลงทุนเริ่มกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ดัชนีตลาดหุ้นโดยรวมปรับตัวขึ้น 0.15% ปิดที่ 5,569.06 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก Nasdaq Composite ลดลง 0.09% ปิดที่ 17,446.34 จุด ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average เพิ่มขึ้น 141.74 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 40,669.36 จุด

แม้ว่าดัชนี S&P 500 และดัชนี Dow จะปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน แต่บรรดานักลงทุนยังคงเผชิญกับการซื้อขายที่ไม่แน่นอน โดยในช่วงที่ต่ำสุดของวันดัชนี S&P 500 ลดลงเกือบ 2.3% ขณะที่ดัชนี Dow ร่วงลงมากกว่า 780 จุด

จีดีพีสหรัฐหดตัว 0.3%

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันพุธว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP)ไตรมาสแรกลดลง 0.3% ซึ่งถือเป็นการพลิกกลับอย่างรวดเร็วจากการขยายตัว 2.4% ในไตรมาสที่สี่ของปีที่ผ่านมา 

ผู้ค้าบางรายตั้งข้อสังเกตว่าตัวเลขดังกล่าวเบี่ยงเบนไปผิดปกติ จากการเพิ่มขึ้น 41% ของการนำเข้าในไตรมาสที่แล้ว เนื่องจากบริษัทต่างๆ ต่างพยายามหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รายงานยังแสดงให้เห็นการชะลอตัวครั้งใหญ่ในการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลดลงของรายจ่ายของรัฐบาลท่ามกลางการตัดลดงบประมาณภายใต้โครงการเพิ่มประสิทธิภาพภาครัฐ(DOGE) ของอีลอน มัสก์

ข้อมูลอื่นๆ ชี้ให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่ยังคงย่ำอยู่กับที่ การใช้จ่ายของผู้บริโภคในไตรมาสแรกเติบโตในรอบไตรมาสที่ 1.8 % โตต่ำที่สุดที่ นับตั้งแต่ไตรมาสที่สองของปี 2023 และชะลอลดลงจากการขยายตัว 4%ในไตรมาสก่อนหน้า 

อย่างไรก็ตาม รายงานเศรษฐกิจที่แยกต่างหาก แสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนมีนาคม ซึ่งสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ 0.5%

ตลาดหุ้นเดือนเมษายนผันผวนหนัก

ทรัมป์โพสต์ลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Truth Social กล่าวโทษ "ผลพวงของนโยบายอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน  หลังจากตัวเลข GDP ที่อ่อนแอ โดยบอกประชาชนว่า "อดทนไว้!!!" และนโยบายของเขา "จะใช้เวลาสักพัก" จึงจะมีผล

สก็อตต์ เฮล์ฟสเตน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนของ Global X ETFs กล่าวว่า "การเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดความไม่แน่นอนในระดับสูงมากสำหรับธุรกิจและนักลงทุน รายงานนี้ควรเป็นสัญญาณเตือนภัยสำหรับรัฐบาลชุดใหม่ แต่บางทีความตั้งใจที่จะสร้างความเจ็บปวดทางเศรษฐกิจเพื่อบรรลุเป้าหมายระยะยาว อาจถูกประเมินไว้ต่ำเกินไป"

นักลงทุนสามารถมองข้ามข้อมูลที่ย่ำแย่และกลับมามีอารมณ์ซื้อในช่วงบ่ายของวันพุธ ทำให้หุ้นในเดือนเมษายนกลับมาฟื้นตัวอย่างน่าทึ่ง

การประกาศตั้งกำแพงภาษีศุลกากรแบบ "ตอบโต้" ของทรัมป์เมื่อวันที่ 2 เมษายนทำให้ตลาดหุ้นตกต่ำ โดยดัชนี S&P 500 ลดลงมากกว่า 11% ในช่วงหนึ่งของเดือนและลดลงเกือบ 20% จากสถิติสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ จากนั้นจึงฟื้นตัวเมื่อทรัมป์ยุติการเรียกเก็บภาษีอัตราสูงไว้ 90 วัน

ในที่สุด ดัชนี S&P 500 ปิดเดือนเมษายนด้วยการลดลงประมาณ 0.8% ในขณะที่ดัชนี Dow ลดลง 3.2% ในช่วงเวลาดังกล่าว ถือเป็นเดือนที่สามติดต่อกันที่ดัชนีหุ้นทั้งสองตัวร่วงลง ส่วน Nasdaq ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 0.9% ในเดือนเมษายน