กูรูยก‘หุ้นอินเดีย’เด่นสุดในภูมิภาค ผงาดแทน‘จีน’หลังสหรัฐย้ายฐานผลิต

กูรูยก‘หุ้นอินเดีย’เด่นสุดในภูมิภาค ผงาดแทน‘จีน’หลังสหรัฐย้ายฐานผลิต

กูรูยก ‘หุ้นอินเดีย’ เด่นสุดในภูมิภาค ผงาดแทน ‘จีน’ หลังสหรัฐย้ายฐานผลิต ล่าสุด ทิม คุก ซีอีโอ Apple ย้ายฐานผลิตจากจีนไปอยู่อินเดีย เผยศักยภาพแรงงานของอินเดียค่อนข้างดีสามารถทดแทนแรงงานจากจีนได้

หุ้นอินเดีย” นาทีนี้ถือว่าร้อนแรงมากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน เพราะตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาผลตอบแทนค่อนข้าง outperform สาเหตุหลัก ๆ มาจากอินเดียถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ได้รับกระทบจากสงครามการค้าค่อนข้างจำกัด อีกทั้งสหรัฐยังให้ความสำคัญกับอินเดียซึ่งถือว่า เป็นประเทศแรก ๆ ที่สหรัฐเดินทางเข้าเจรจาการค้าอย่างมีนัยสำคัญ ล่าสุด Apple โยกย้ายฐานผลิต iPhone ทั้งหมดจากจีนไปอินเดีย

กูรูยก‘หุ้นอินเดีย’เด่นสุดในภูมิภาค ผงาดแทน‘จีน’หลังสหรัฐย้ายฐานผลิต

ประกิต สิริวัฒนเกตุ” กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ กรุงเทพธุรกิจ ว่า หุ้นอินเดียมีความน่าสนใจค่อนข้างมาก หลังจากที่สหรัฐกับจีนต้องการจะแยกให้อีกฝ่ายนั่นโดดเดี่ยว ดังนั้น ตลาดที่จะได้รับการพึ่งพามาที่สุดนั่นคือ อินเดีย ซึ่ง จีดีพีของอินเดียอยู่ราว 5% ของโลก ซึ่งก็เป็นตลาดที่ไว้ชดเชยฝั่งของจีน ดังนั้น สหรัฐจึงต้องใช้อินเดียเป็นฐานผลิต และจีนก็ต้องใช้ฐานผลิตของอินเดียเพื่อส่งสินค้าไปสหรัฐ

นอกจากนี้ อินเดียได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าค่อนข้างน้อยที่สุด เพียงแค่ 3-4% ของจีดีพี ในแง่ของตลาดส่งออก ขณะเดียวกันอินเดียจะได้รับการเจรจาในประเทศถัดไป และดูเหมือนสหรัฐจะต้องง้ออินเดีย ทำให้อินเดียเติบโตต่อเนื่อง แม้จะอยู่ท่ามกลางรัฐบาลผสมมากขึ้น แต่ก็ยังมีเสถียรภาพ ดังนั้น กองทุนหุ้นอินเดียถือว่าก็มีความน่าสนใจ หากนักลงทุนจะเข้ามาลงทุน โดยเน้นไปยังกองทุนกรุงศรีอินเดียอิควิตี้ หรือ KFINDIA ซึ่งให้ผลตอบแทนดีที่สุด

กิจพณ ไพรไพศาลกิจ” รองกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลต่อไปว่า ช่วงที่ผ่านมา หุ้นอินเดียเริ่มมีแนวโน้มการลงทุนมากขึ้น เนื่องจากตลาดประเมินว่า บนความขัดแย้งสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน โดยยุทธศาสตร์อเมริกาคงจะต้องทําหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น การย้ายฐานการผลิตสินค้าบางอย่างให้ออกจากทางฝั่งจีน แล้วก็ทางฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปยั่งฝั่งทวีปอเมริกามากขึ้น

ขณะเดียวกัน หากต้องการลดบทบาทของจีนลงก็ต้องดูจะมีใครที่มาทําหน้าที่แทนจีนหรือว่าใกล้เคียงกับจีนได้บ้าง ซึ่งวันนี้ประเทศที่สามารถทำได้ใกล้เคียงกับจีนมากที่สุดคือ อินเดียที่อาจจะอยู่อยู่ในระดับที่เรียกว่า มีเป็นมหาอํานาจที่ไม่ได้มีแรงกดดันกับสหรัฐมากไป

และอินเดียพยายามปรับตัวเป็นฐานผลิต ซึ่งเริ่มเห็นบริษัทอิเล็กทรอนิกส์บางส่วนเริ่มย้ายแผงการผลิตไปอินเดีย ตรงนี้ทําให้ตลาดคาดอินเดียเป็นประเทศที่มีโอกาสจะได้ประโยชน์จากความขัดแย้งเรื่องสงครามการค้า รวมถึงอินเดียเองมีอุตสาหกรรมหลายหลาย อย่างเช่น ยา เวชภัณฑ์ ไอที เป็นต้น ทางฝั่งสหรัฐก็มีการเอาต์ซอสไว้ที่อินเดียค่อนมาก

อินเดียซึ่งอยู่ในบทบาทที่มีโอกาสที่สหรัฐอเมริกามองว่าจะเข้ามาทดแทนจีน ก็เลยทําให้อินเดียเป็นตลาดนึงที่นักลงทุนเองจับตา หรือมีการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนเข้ามา นอกจากนี้ อินเดียเองเป็นตลาดที่ perform ดีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าอาจมีชะลอตัวไปบ้าง แต่ทว่าถ้ามองในภาพความขัดแย้งต้องยอมรับว่า น้ำหนักของอินเดียเมื่อเทียบกับหลายประเทศยังมีความน่าสนใจยังน่าสนใจ และที่สําคัญในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ยังคงเติบโตได้ก็เริ่มมีจํานวนที่ลดน้อยลง

ณัฐ ตรีพูนสุข” ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ล่าสุด รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ “เจดี แวนซ์” ได้เดินทางเข้าเจรจากับอินเดีย โดยแผนหลัก ๆ ต้องการให้อินเดียขึ้นมาแทนที่จีน ในการหนึ่งในซัพพลายเชนที่สําคัญของสหรัฐ ล่าสุด อินเดียบอกกับสหรัฐว่าต่อจากนี้ไปถ้าอินเดียจะให้สิทธิพิเศษทางภาษีต่อประเทศไหนก็ตามสหรัฐก็จะได้เหมือนกันหมด ถ้าหากเกิดดีลนั้นขึ้นมาและสำเร็จ รวมถึงจะเปิดทางให้กับสหรัฐฯสามารถส่งสินค้าเกษตรเข้ามาในอินเดีย ในอัตราภาษีระดับประมาณไม่เกิน 5% เท่านั้น ในขณะที่จากเดิมภาษีนําเข้าสินค้าเกษตรของอินเดียจากสหรัฐฯ ประมาณ 30-100% ซึ่งถือว่าหายไปค่อนข้างเยอะมาก

ทั้งนี้ สิ่งที่ตลาดหุ้นอินเดียแข็งแกร่งกว่าประเทศอื่น ๆ เนื่องจากว่าผลกระทบของการขึ้นภาษีรอบล่าสุดของอินเดียได้รับผลกระทบค่อนข้างจํากัด เพราะว่าอินเดียส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ หลัก ๆ จะเป็นยา และไอทีเซอร์วิส ซึ่งยังไม่ได้ถูกขึ้นภาษีในรอบนี้ รวมถึงความสามารถในการผลิต โดยล่าสุด ทิม คุก ซีอีโอ Apple ได้เคยพูดคุยกับทรัมป์ว่าปัญหาการย้ายฐานผลิตจากจีนออกมา ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ค่าแรง แต่ปัญหาอยู่ที่ทักษะของแรงงาน ซึ่งหาจากจีนได้มาก แต่ทว่าในสหรัฐค่อนข้างยากมาก ล่าสุด ทิม คุก ซีอีโอ Apple ได้ย้ายฐานผลิตจากจีนไปอยู่อินเดีย นั่นแสดงว่า ศักยภาพแรงงานของอินเดียค่อนข้างดีที่สามารถทดแทนแรงงานจากจีนได้