หุ้นเด่นเบิร์กไชร์ฯ หุ้นตัวท็อปของบัฟเฟตต์ ท่ามกลางตลาดผันผวน

หุ้นตัวท็อปของวอร์เรน บัฟเฟตต์ และหุ้นเด่นเบิร์กไชร์ แฮธะเวย์ มาพร้อมกับกองทุนอีทีเอฟใหม่ตั้งเป้าผลตอบแทน 15% ต่อปี ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ในปีที่ไม่เอื้ออำนวยต่อหุ้นชื่อดังหลายตัวแต่ หุ้น เบิร์กไชร์ แฮธะเวย์ Berkshire Hathaway ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็อยู่ในอันดับต้น ๆ
เบิร์กไชร์ฯของบัฟเฟตต์ชนะตลาด
โดยหุ้นเบิร์กไชร์ฯ ให้ผลตอบแทน 17% ในปีนี้ ในขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลงแล้วประมาณ 6%
ผลการดำเนินงานดังกล่าวทำให้ Berkshire อยู่ในกลุ่ม 10% อันดับแรกของผู้นำหุ้นขนาดใหญ่ของตลาดสหรัฐฯ และการดำเนินการดังกล่าวทำให้ บัฟเฟตต์ ได้รับความสนใจมากขึ้นก่อนการประชุมผู้ถือหุ้น Berkshire Hathaway ประจำปีในสุดสัปดาห์หน้าที่เมืองโอมาฮาในรัฐเนแบรสกา
กองทุนอีทีเอฟใหม่ติดตามหุ้นท็อปของบัฟเฟตต์
นอกจากนี้ยังเป็นจังหวะที่ดีสำหรับการเปิดตัวกองทุนอีทีเอฟ VistaShares Target 15 Berkshire Select Income ETF (OMAH) เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งถือหุ้น 20 อันดับแรกที่มีน้ำหนักมากที่สุดในพอร์ตของ Berkshire Hathaway เช่นเดียวกับหุ้นของ Berkshire Hathaway เอง
ปัจจุบันหุ้น Berkshire มีสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุด ที่ 10.6% ในกองทุนอีทีเอฟนี้ รวมบรรดาหุ้นที่ใหญ่ที่สุดที่ Berkshire ถือครอง ได้แก่ Apple, American Express, Kroger, VeriSign, Bank of America, Citigroup, Visa และ Coca-Colaซึ่งเป็นที่ชื่นชอบมายาวนานของชายที่รู้จักกันในฉายาเทพพยากรณ์แห่งโอมาฮา
“เป็นพอร์ตโฟลิโอที่สมดุลดีจริงๆ เลือกโดยนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกที่เคยเห็น” อาดัม แพตตี ซีอีโอของกองทุน VistaShares กล่าวในรายการ “TF Edge” ของทีวีซีเอ็นบีซี ในสัปดาห์ที่ผ่านมานี้
ผลงานที่เหนือกว่า S&P 500 ของ Berkshire ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ปี 2025 หุ้นของบัฟเฟตต์ ทำให้ผลงานดีสูงสามเท่าของตลาดในช่วงปีที่ผ่านมา และให้ผลตอบแทน 185% ในช่วงห้าปีที่ผ่านมานั้น มากกว่าผลงานของ S&P 500 กว่าสองเท่า
นอกเหนือจากประวัติความสำเร็จในระยะยาวในตลาดแล้ว Berkshire Hathaway ยังได้รับความสนใจอย่างมากในขณะนี้สำหรับเงินสดจำนวนมหาศาลที่บัฟเฟตต์ ถืออยู่ ขณะที่เขาลดการถือหุ้นในหุ้นขนาดใหญ่รวมถึง Apple ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม ดัชนี S&P 500 ประสบกับความผันผวนในระยะสั้นอย่างรุนแรงตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคม แม้ว่าดัชนี S&P จะฟื้นตัวขึ้นเมื่อไม่นานนี้ แต่ดัชนีก็ยังคงลดลง 8% นับตั้งแต่เริ่มดำรงตำแหน่งสมัยที่สองของทรัมป์
“ตลาดได้รับการขับเคลื่อนโดยโมเมนตัมมาหลายปีแล้ว การเปลี่ยนแปลงได้เปลี่ยนไปแล้ว และเรากำลังมองหาหุ้นคุณภาพในแง่ของการเปิดรับความเสี่ยง และ Berkshire Hathaway ก็มีผลงานที่ดีอย่างเหลือเชื่อในปีนี้ โดยทำผลงานได้ดีกว่า S&P 500 อย่างเห็นได้ชัด” แพตตีกล่าว
กองทุนอีทีเอฟลงทุนแบบบัฟเฟตต์ แต่จะจ่ายผลตอบแทนทุกเดือน
เป็นที่ทราบกันดีว่า Berkshire Hathaway ไม่จ่ายเงินปันผล โดยบัฟเฟตต์ยึดมั่นมาหลายทศวรรษโดยเชื่อว่าเขาสามารถนำเงินสดไปลงทุนซ้ำเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นได้ ในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ บัฟเฟตต์เขียนว่าผู้ถือหุ้นของ Berkshire “สามารถมั่นใจได้ว่าเราจะนำเงินส่วนใหญ่ไปลงทุนในหุ้นตลอดไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นของอเมริกา” การไม่มีเงินปันผลเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ถือหุ้นบางรายใน Berkshire ที่ต้องการรายได้จากตลาดมาหลายปีแล้ว ตามที่ แพตตี กล่าว และยังได้เสริมว่าบริษัทของเขาได้ทำการวิจัยกับนักลงทุนในการออกแบบกองทุนอีกทีเอฟ "ใครบ้างล่ะที่ไม่ต้องการลงทุนแบบบัฟเฟตต์ แต่ก็ต้องการรายได้ด้วย" เขากล่าว
ดังนั้น นอกจากจะเชื่อมโยงกับผลงานของ Berkshire และหุ้นที่บัฟเฟตต์ เลือกแล้ว กองทุนอีทีเอฟ VistaShares Target 15 Berkshire Select Income ETF ยังได้รับการออกแบบมาให้สร้างรายได้ 15% ต่อปีผ่านกลยุทธ์การขายออปชันซื้อและจ่ายเงินรายเดือน 1.25% ให้กับผู้ถือหุ้น กลยุทธ์การสร้างรายได้นี้ได้รับความนิยมมากขึ้นในกองทุนอีทีเอฟ โดยมีผู้จัดการสินทรัพย์จำนวนมากขึ้นเปิดตัวกองทุนเพื่อคว้าโอกาสในการสร้างรายได้และนักลงทุนจำนวนมากขึ้นที่ใช้แนวทางนี้ท่ามกลางความผันผวนของตลาด