ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลดลง นักลงทุนเตรียมรับผลประกอบการ

ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวลดลงเล็กน้อยในช่วงเย็นวันอาทิตย์ (27 เม.ย.) ก่อนที่จะมีการรายงานผลประกอบการคึกคักในสัปดาห์นี้
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวลดลงเล็กน้อยในช่วงเย็นวันอาทิตย์ (27 เม.ย.) ตามเวลานิวยอร์ก ก่อนที่จะมีการรายงานผลประกอบการคึกคักในสัปดาห์นี้
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลดลง 60 จุด หรือ 0.1% S&P 500 ฟิวเจอร์ลดลง 0.2% ในขณะที่ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ลดลง 0.2%
นักลงทุนกำลังรอคอยช่วงที่คึกคักที่สุดของฤดูกาลผลประกอบการไตรมาสแรก ซึ่งจะมีบริษัทในดัชนี S&P 500 มีมากกว่า 180 บริษัทจะรายงานผลประกอบการ โดยบริษัทในกลุ่มหุ้น 7 นางฟ้า Magnificent Seven ทั้ง 4 ได้แก่ Amazon, Apple, Meta Platforms และ Microsoft จะเปิดเผยรายงานผลประกอบการรายไตรมาส
จับตาผลประกอบการของบริษัท เบิรฺ์กไชร์ฯ
บริษัทขนาดใหญ่ เช่น Visa, Coca-Cola, Eli Lilly และ Berkshire Hathaway ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็อยู่ในรายการรายงานผลประกอบการเช่นกัน
ผลประกอบการในไตรมาสนี้ค่อนข้างแข็งแกร่ง โดย 73% ของบริษัทที่รายงานผลประกอบการดีเกินกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ แต่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 77% ตามข้อมูลของ FactSet อย่างไรก็ตาม วอลล์สตรีทยังคงปรับลดคาดการณ์สำหรับไตรมาสที่สองและทั้งปี
สัปดาห์นี้จะปิดสัปดาห์การซื้อขายสุดท้ายของเดือนด้วย ตลาดหุ้นผันผวนหนัก หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยแผนภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ของเขา ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายภาษีศุลกากรของเขา ซึ่งหลายฉบับยังคงไม่แน่นอน ทำให้ตลาดผันผวนมากขึ้น
แนะหุ้นอาจจะกลับไปสู่ขาขึ้น
จนถึงขณะนี้ในเดือนเมษายน ดัชนี S&P 500ลดลง 1.5% ในขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average
มีแนวโน้มลดลง 4.5% และ Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.5% ดัชนี S&P 500 เข้าสู่ตลาดหมีชั่วคราวเมื่อวันที่ 7 เมษายน และฟื้นตัวเล็กน้อยตั้งแต่นั้นมา แต่ดัชนีไม่สามารถทะลุระดับแนวต้านสำคัญได้
อดัม เทิร์นควิสต์ หัวหน้านักกลยุทธ์ทางเทคนิคจากโบรกเกอร์ LPL Financial กล่าวว่า "แม้ว่าจะยังเร็วเกินไปที่จะสรุปในเชิงเทคนิคว่าราคาจะแตะจุดต่ำสุด แต่การดีดตัวกลับจากแนวรับสำคัญเมื่อไม่นานนี้บ่งชี้ว่านักลงทุนควรเฝ้าระวังในระดับสูงสำหรับการเคลื่อนไหวกลับไปสู่ภาวะเปิดรับความเสี่ยง"