‘ต่างชาติ’ แห่ซื้อ ‘บอนด์ไทย’ พุ่ง 3 เดือนแรก ‘ฟันด์โฟลว์’ ไหลเข้าสุทธิ 7 หมื่นล้าน

‘ต่างชาติ’ แห่ซื้อ ‘บอนด์ไทย’ พุ่ง 3 เดือนแรก ‘ฟันด์โฟลว์’ ไหลเข้าสุทธิ 7 หมื่นล้าน หลังหนีสินทรัพย์เสี่ยง โยกเงินซบที่ปลอดภัย “กังวลกำแพงภาษีทรัมป์”
“ต่างชาติ” แห่โยกเงินซื้อ “บอนด์ไทย” พุ่ง หลัง 3 เดือนแรก ซื้อสุทธิ 7 หมื่นล้าน เทียบกับเงินไหลออกปีก่อน กว่า 6.8 หมื่นล้าน หลังนักลงทุนหนี “สินทรัพย์เสี่ยง” มีความผันผวนสูง หันซบสินทรัพย์ปลอดภัย เหตุกังวลกำแพงภาษีทรัมป์
ท่ามกลางควาไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก จากกำแพงภาษีของทรัมป์ ส่งผลให้กดดันสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหนัก ดังนั้น ลงทุนทั่วโลกต่างต้องปรับพอร์ตการลงทุนใหม่และหันเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) หนึ่งในนั้นคือ “พันธบัตรไทย” ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โฟลว์ไหลเข้าพันธบัตรอย่างหนักกว่า 70,000 ล้านบาท
นายวิน พรหมแพทย์ CFA ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย ให้สัมภาษณ์กับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ทิศทางต่างชาติตั้งแต่ต้นปี 2568 ออกมาค่อนข้างดีมากกับการเข้ามาซื้อพันธบัตร ซึ่งเมื่อดูข้อมูลตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่เกือบ 70,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดเข้าซื้อสุทธิในช่วง 3 เดือนครึ่งมากสุด เทียบเท่ากับการไหลออกทั้งปี 2567 กว่า 68,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ เป็นสัญญาณว่า นักลงทุนส่วนหนึ่งมีการกระจายการลงทุนออกจากสินทรัพย์เสี่ยงในสหรัฐ มาหาประเทศเกิดใหม่ และมองว่า พันธบัตรไทยเป็น Safe Haven อีกรอบหนึ่ง ที่มีความปลอดภัย เนื่องจากว่าค่าเงินบาทค่อนข้างมีความเสถียร บวกกับดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง ทำให้นักลงทุนหลบจากประเทศอื่น ๆ อย่างสหรัฐที่มีอัตราดอกเบี้ยที่ผันผวน มาลงทุนในพันธบัตรไทยอย่างชัดเจน
“ตัวเลขต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในพันธบัตรไทย ถือว่าออกมาค่อนข้างสวย เพียงแค่ 3 เดือนครึ่ง เข้ามาเท่ากับออกไปแล้วทั้งปี ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี ในเรื่องของความเชื่อมั่นของนักลงทุน”
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2568 เป็นต้นมา ได้มีการแนะนำนักลงทุนให้มีการปรับพอร์ตลดน้ำหนักในหุ้นสหรัฐ และเพิ่มการลงทุนตราสารหนี้ไทย ซึ่งถือว่ามาถูกทาง และหลังจากนี้กำลังเริ่มกลับไปดู หุ้นสหรัฐ หุ้นอินเดีย และหุ้นไทย ว่าจะใกล้ถึงจุดพลิกแล้วหรือไม่ แต่ยังไม่ได้แนะนำให้เข้าไปซื้อ เพราะยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และรอจังหวะ ดังนั้น จึงแนะนำลงทุนในตราสารหนี้ไทยไปก่อน เป็นเพื่อเป็นเซฟโซน รวมถึงลงทุนในกองทุนรวมผสม ที่ผ่านมา 3 เดือนครึ่ง ให้ผลตอบแทนติดลบเพียงแค่ 1% เท่านั้น เมื่อเทียบกับหุ้นไทยลบไปกว่า 10% ส่วนหุ้นสหรัฐลบ 20%
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลต่อไปว่า ต่างชาติเข้าซื้อพันธบัตรไทยจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา โดยหลัก ๆ นักลงทุนต่างชาติต้องการกระจายความเสี่ยง หลังจากที่ก่อนหน้ามีการถือสินทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์จำนวนมาก และประจวบเหมาะที่มีสงครามการค้า ทำให้นักลงทุนต้องมีการจัดสรรเงินลงทุนใหม่
ทั้งนี้ ข้อดีไทยมีความแข็งแกร่งในเชิงบาลานซ์ชีตค่อนข้างสูง บวกกับเงินทุนสำรอง แม้จีดีพีไทยมีการปรับลงมา ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 2-3 ครั้ง จึงเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาเก็งกำไรตราสารหนี้
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.68 ต่างชาติเข้าซื้อกว่า 4,000 ล้านบาท ต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งวันที่ 17 เม.ย.68 เข้าซื้อมากสุด 18,000 ล้านบาท และล่าสุด 23 เม.ย.68 เข้าซื้อที่ 13,000 ล้านบาท ซึ่งต่างชาติเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นตลาดอาจจะมีการฟื้นตัวจำกัด เนื่องจากสงครามการค้าแม้จะดูผ่อนคลายลงไปบ้าง จากการผ่อนปรนท่าทีของสหรัฐ แต่ทว่าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงที่ว่า ในภาพกติกาการค้าโลกจะเปลี่ยนแปลงไป ขณะที่ประเทศขนาดกลาง-เล็ก ยังมีความเสี่ยงที่จะโดนกดดัน
ทั้งนี้ การที่ต่างชาติเข้ามาพันธบัตรไทยค่อนข้างมาก และมีการขายออกในฝั่งของหุ้น ส่งผลต่อการปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น จึงนักลงทุนจึงมีการปรับลดความเสี่ยงในระดับหนึ่ง และเข้าหาการลงทุนที่สามารถควบคุมได้ และมีการปรับลดประมาณในระดับที่ต่ำ
นายบดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้อำนวยการส่วนกลยุทธ์การลงทุน บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเสริมว่า การที่ต่างชาติเข้าซื้อพันธบัตรไทยค่อนข้างมาก มองว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 2 ครั้งในปีนี้ จากผลกระทบกำแพงภาษี ล่าสุดไอเอ็มเอ็มประมาณจีดีพีไทยน่าจะอยู่ที่ 1.8% ต่ำจากเดิมที่ 2% รวมถึงนักลงทุนอาจจะเข้ามาเก็งกำไรเรื่องของค่าเงิน ส่งผลให้โฟลว์ไหลเข้ามาในบ้านเรา
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ไทยโดนปรับลดจีดีพีลง ทำให้กำไรบริษัทจดทะเบียนก็อาจจะถูกปรับลดลง ขณะที่บ้านเรามีภาคการส่งออก และท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ และพอค่าเงินบาทแข็งค่าก็จะทำให้กระทบการส่งออกและท่องเที่ยว เพราะจีงไม่ใช่ประเทศหลักที่จะมาพักไว้สำหรับบอนด์และไปเข้าหุ้น