ดาวโจนส์ปิดตลาดพุ่งขึ้น 400 จุด ตอบรับทรัมป์ยอมถอยเรื่องภาษี เฟด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวันพุธเพิ่มขึ้น ตลาดหวังความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนจะคลี่คลาย ประธานาธิบดีทรัมป์ส่งสัญญาณไม่ปลดพาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ
ซีเอ็นบีซี รายงานภาวะตลาดวอลล์สตรีทวันพุธ (23 เม.ย.68) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาไทยว่า ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวันพุธเพิ่มขึ้นจากความหวังว่าความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐ และจีนจะคลี่คลายลงในเร็วๆ นี้ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งสัญญาณว่าไม่มีแผนปลดนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐออกจากตำแหน่งผู้นำธนาคารกลาง
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average
ปิดตลาดพุ่งขึ้น 419.59 จุด หรือ 1.07% ที่ 39,606.57 จุด ดัชนี S&P 500
ปิดตลาดพุ่งขึ้น 1.67% ที่ 5,375.86 จุด และดัชนี Nasdaq Composite
ปิดตลาดพุ่งขึ้น 2.50% ที่ 16,708.05 จุด ดัชนีทั้งสามปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สอง
อย่างไรก็ตาม ดัชนีหลักปิดตลาดต่ำกว่าระดับสูงสุด ในช่วงเช้าวันพุธ ดัชนีดาวโจนส์ ซึ่งเป็นหุ้นชั้นนำปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,100 จุด และดัชนี S&P 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.44%
เมื่อวันอังคาร ทรัมป์กล่าวว่า เขายินดีที่จะใช้แนวทางที่เผชิญหน้ากันน้อยลงในการเจรจาการค้ากับจีน โดยระบุว่าอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 145% ในปัจจุบันนั้น “สูงมาก และต่อไปจะไม่สูงขนาดนั้น … ไม่ มันจะไม่ใกล้เคียงกับระดับนั้นเลย มันจะลดลงอย่างมาก แต่ก็จะไม่เป็นศูนย์”
ในวันพุธ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง สก็อตต์ เบสเซนท์ กล่าวด้วยว่าทั้งสองประเทศมีโอกาสที่จะ “ทำข้อตกลงใหญ่” ในเรื่องการค้า “หากพวกเขาต้องการที่จะปรับสมดุลใหม่ เราก็มาทำด้วยกัน” เขากล่าว
“นั่นคือ สิ่งที่ตลาดต้องการ แม้กระทั่งเพียงสัญญาณของการเย็นลงเล็กน้อยในการโต้ตอบกันระหว่างสหรัฐ และจีนเมื่อพูดถึงการค้า” คีธ บิวแคนัน ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอของ Globalt Investments กล่าว “ตลาดโล่งใจแน่นอน หวังว่าการพูดคุยที่แย่ที่สุดจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่เรายังไม่ถึงจุดจบของเกม”
ภาษีสินค้าจีนอาจจะลดลงเหลือ 50-65%
นอกจากนี้หนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal ยังรายงานเมื่อวันพุธ โดยอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาลดภาษีนำเข้าจากจีนเหลือระหว่าง 50 – 65% จากระดับ 145% เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าวกับซีเอ็นบีซี ในเวลาต่อมาว่า การดำเนินการดังกล่าวจะต้องเป็นการดำเนินการแบบทวิภาคี โดยจีนจะต้องลดอุปสรรคทางการค้าด้วยเช่นกัน
หุ้นที่มีความเสี่ยงสูงต่อภาวะเศรษฐกิจจีนซึ่งถูกเทขายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา กลับมาพุ่งสูงขึ้น ซึ่งรวมถึงหุ้นยักษ์ใหญ่ หรือหุ้น 7 นางฟ้า “Magnificent Seven” อย่าง Apple และ Nvidia พุ่งขึ้นกว่า 2% และมากกว่า 3% ตามลำดับ
ราคาหุ้นของ Tesla พุ่งขึ้น 5% เนื่องมาจากแรงกดดันด้านภาษีที่ผ่อนคลายลง และหลังจากที่ อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวระหว่างการประชุมรายงานผลประกอบการของบริษัทเมื่อวันอังคารว่า เวลาที่เขาใช้ไปกับการบริหารหน่วยงานเพิ่มประสิทธิภาพภาครัฐ ของทรัมป์จะลดลง “อย่างมาก” เริ่มตั้งแต่เดือนหน้า เพื่อหันมาให้ความใส่ใจกับงานที่ Tesla มากขึ้น
โล่งใจทรัมป์จะไม่ไล่ประธานเฟดออก
นักลงทุนโล่งใจเมื่อทรัมป์กล่าวอีกว่าเขา "ไม่มีเจตนา" ที่จะปลดพาวเวล ซึ่งวาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดจะสิ้นสุดลงในเดือนพฤษภาคม 2026 ความเห็นดังกล่าวถือเป็นการกลับคำพูดของประธานาธิบดี ซึ่งเพิ่งจะวิจารณ์พาวเวล อย่างรุนแรงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยเรียกผู้นำธนาคารกลางรายนี้ว่าเป็น "ผู้แพ้รายใหญ่" และเรียกร้องให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ยังโพสต์ลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Truth Social ว่า "การปลดพาวเวลต้องเกิดขึ้นเร็วพอ"
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์