เปิดตลาดดาวโจนส์พุ่ง 1,000 จุด รับทรัมป์ผ่อนท่าทีภาษีจีน พาวเวล

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นมากกว่า 1,000 จุด หลังประธานาธิบดีทรัมป์ไม่มีแผนปลดเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดออกจากตำแหน่ง ทรัมป์ยังส่งสัญญาณว่าภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอาจลดลง
ซีเอ็นบีซี รายงานช่วงเปิดตลาดวอลล์สตรีทเช้าวันพุธ ( 23 เม.ย.) ตามเวลานิยอร์ก ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นมากกว่า 1,000 จุด หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่าเขาไม่มีแผนปลดเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐออกจากตำแหน่ง นอกจากนี้ ดัชนียังได้รับแรงหนุนจากทรัมป์ที่ส่งสัญญาณว่าภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอาจลดลง
ช่วงเปิดตลาดเช้าดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average
พุ่งขึ้น 1,014 จุด หรือ 2.4% ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 3% และดัชนี Nasdaq Compositeพุ่งขึ้น 3.9%
ดัชนีหุ้นพุ่งขึ้น หลังจากทรัมป์กล่าวเมื่อช่วงเย็นของวันอังคารว่าเขา "ไม่มีเจตนา" ที่จะปลดพาวเวล ก่อนวาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดจะสิ้นสุดในเดือนพฤษภาคม 2026
ความคิดเห็นดังกล่าวถือเป็นการกลับลำของประธานาธิบดี ซึ่งเพิ่งจะวิจารณ์พาวเวลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยเรียกผู้นำธนาคารกลางรายนี้ว่า "ผู้แพ้รายใหญ่" และเรียกร้องให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ยังโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดีย Truth Social ว่า “การเลิกจ้างของพาวเวลนั้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้เร็วพอ”
ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่าเขายินดีที่จะใช้แนวทางที่เผชิญหน้ากันน้อยลงในการเจรจาการค้ากับจีน โดยระบุว่าภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 145% ในปัจจุบันนั้น “สูงมาก และจะไม่สูงขนาดนั้น ... ไม่ มันจะไม่ใกล้เคียงกับระดับนั้นเลย มันจะลดลงอย่างมาก แต่ก็จะไม่เป็นศูนย์”
หุ้นที่มีความเสี่ยงสูงล้อไปกับเศรษฐกิจจีนซึ่งถูกขายออกไปในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา กลับมาพุ่งสูงขึ้นจากท่าทีที่อ่อนลงของทรัมป์ ซึ่งรวมถึงยักษ์ใหญ่ หรือหุ้น 7 นางฟ้า “Magnificent Seven” อย่าง Apple และ Nvidia ซึ่งพุ่งขึ้น 3% และ 5% ตามลำดับ
หุ้นของ Tesla พุ่งขึ้น 5% เนื่องมาจากแรงกดดันด้านภาษีที่ผ่อนคลายลง และหลังจากที่ซีอีโอ อีลอน มัสก์ กล่าวระหว่างการประชุมรายงานผลประกอบการของบริษัทในวันอังคารว่าเวลาที่เขาใช้ไปกับการบริหารแผนกประสิทธิภาพรัฐบาลของทรัมป์จะลดลง “อย่างมาก” เริ่มตั้งแต่เดือนหน้า เพื่อที่เขาจะได้หันมาให้เวลากับ Tesla มากขึ้น
หุ้นกำลังฟื้นตัวจากช่วงขาขึ้น โดยในวันอังคารดัชนีดาวโจนส์ซึ่งมีหุ้น 30 ตัว พุ่งขึ้นมากกว่า 1,000 จุด หยุดการร่วงลงติดต่อกัน 4 วัน ทั้งดัชนี S&P 500
และ Nasdaq Composite
พุ่งขึ้นมากกว่า 2% แม้ว่าหุ้นจะพุ่งขึ้นในช่วงขาขึ้น แต่บรรดานักลงทุนที่วิตกกังวลต่างก็แห่กันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าพุ่งขึ้นมากกว่า 8% ในเดือนเมษายน และแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 3,509.90 ดอลลาร์ในวันอังคาร
- คาดเงินไหลกลับจากทองคำมาตลาดหุ้น
“ขณะนี้มีเงินจำนวนมากซ่อนตัวอยู่ในทองคำ ดังนั้นจึงมีเงินจำนวนมากที่ไม่ก่อให้เกิดผลกำไรที่จะหาทางกลับเข้าสู่ตลาดได้ใน ณ จุดใดจุดหนึ่ง” เจมี ค็อกซ์ หุ้นส่วนผู้จัดการของ Harris Financial Group กล่าว “เงินอยู่ที่นั่น เพียงแต่ตอนนี้เป็นสีเหลือง”