ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (18 เม.ย.) บวก 9.67 จุด เทรดวอร์เริ่มเข้าสู่ขั้นเจรจา

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (18 เม.ย.) บวก 9.67 จุด เทรดวอร์เริ่มเข้าสู่ขั้นเจรจา

"ตลาดหุ้นไทย" วันนี้ (18 เม.ย.) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,150.95 จุด เพิ่มขึ้น 9.67 จุด หรือ 0.85% "นักวิเคราะห์" ชี้ หุ้นไทยโมเมนตัมบวกเพราะสงครามการค้าเริ่มเข้าสู่ช่วงเจรจา สัปดาห์หน้าจับตากลุ่มแบงก์ประกาศงบฯ

"ตลาดหุ้นไทย"วันนี้ (18 เม.ย.) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,150.95 จุด เพิ่มขึ้น 9.67 จุด หรือ 0.85% โดยดัชนีฯ เคลื่อนไหวผันผวนทั้งวัน ซึ่งทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,153.20 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,141.32 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 27,660.55 ล้านบาท

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (18 เม.ย.) บวก 9.67 จุด เทรดวอร์เริ่มเข้าสู่ขั้นเจรจา ภาวะหุ้นไทยวันนี้ (18 เม.ย.)

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

  1. KBANK ราคาปิด 148.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.66% มูลค่าซื้อขาย 1,870.83 ล้านบาท
  2. BBL ราคาปิด 144.00 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.71% มูลค่าซื้อขาย 1,517.14 ล้านบาท
  3. DELTA ราคาปิด 69.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 4.55% มูลค่าซื้อขาย 1,176.96 ล้านบาท
  4. PTT ราคาปิด 31.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.81% มูลค่าซื้อขาย 1,128.52 ล้านบาท
  5. AOT ราคาปิด 38.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.66% มูลค่าซื้อขาย 1,082.20 ล้านบาท

หุ้นไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง กูรูมองโมเมนตัมสัปดาห์หน้ายังเป็นบวก

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้า โดยนายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า ตลาดอยู่ในโซนของการค่อยๆ ซื้อรีบาวด์ หลังความกังวลเรื่องสงครามการค้าเริ่มผ่อนคลายลง โดยสหรัฐฯ และจีนมีแนวโน้มเข้าสู่การเจรจา ซึ่งประเทศไทยมีกำหนดเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ในวันที่ 23 เมษายนนี้

ปัจจัยหนุนตลาด

  • กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ฟื้นตัวได้ดี นำโดย KCE มีจังหวะดีดตัวขึ้นอย่างสวยงาม
  • กลุ่มอีคอมเมิร์ซ เริ่มเห็นจังหวะฟื้นตัวต่อเนื่อง
  • กลุ่มไฟแนนซ์ มีจังหวะกระตุกขึ้นมา เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ คณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 30 เมษายน

นายวิจิตรมองว่า สัญญาณเทคนิคอลแสดงให้เห็นว่า ดัชนีไม่หลุด 1,120 จุด ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ มีการทำแพทเทิร์นที่เรียกว่า "ไอแลนด์" (Island) หลังจากปรับตัวลงไปที่โซนประมาณ 1,050 จุด ก่อนที่จะเบรกขึ้นมา ซึ่งเป็นการคอนเฟิร์มการฟื้นตัวระยะสั้น

กลุ่มแบงก์ไม่สดใส

กลุ่มเดียวที่กดดันตลาดในระยะสั้นคือกลุ่มธนาคาร เนื่องจากผลประกอบการไตรมาสแรกของ TISCO และ BBL แม้จะดีกว่าคาด แต่เมื่อพิจารณารายละเอียดพบว่า การเติบโตของสินเชื่อถดถอย, ส่วนต่างดอกเบี้ยลดลง เพราะ กนง. มีการปรับลดดอกเบี้ยในไตรมาส 1, หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) มีการขยับขึ้น และกำไรส่วนหนึ่งมาจากการขายสินทรัพย์ลงทุน ซึ่งไม่ใช่ธุรกิจหลัก

สำหรับแนวโน้มสัปดาห์หน้า นายวิจิตรมองว่า โมเมนตัมตลาดยังอยู่ในโซนของการลุ้นฟื้นตัวต่อ โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1,160 จุด ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน ที่ SET ไม่สามารถผ่านได้มานานแล้ว หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ จะสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนเพิ่มขึ้น

 ปัจจัยที่ต้องติดตาม:

  • การเจรจาการค้า ของไทยกับสหรัฐฯ ในวันที่ 23 เมษายน
  • ผลประกอบการธนาคาร ในวันจันทร์และอังคารหน้า ซึ่งธนาคารแทบทุกแห่งจะรายงานผล
  • การประชุม กนง. ในวันที่ 30 เมษายน ซึ่งอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

คำแนะนำการลงทุน

นักวิเคราะห์แนะนำให้จับตา:

  • กลุ่มไฟแนนซ์ โดยเฉพาะ SAWAD ซึ่งมีแวลูเอชั่นไม่แพงและแพทเทิร์นราคาปรับตัวดีขึ้น
  • GULF หุ้นใหญ่ที่น่าจะนำตลาด โดยได้แรงหนุนจากค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่า
  • หุ้นกลุ่มโซลาร์ ที่มีแวลูเอชั่นไม่สูง
  • MONO สำหรับนักลงทุนที่ชอบเล่นหุ้นเล็ก โดยราคาเริ่มรีบาวด์จากโซนบาท 10 กว่า มาที่บาท 20 กว่า และมีโอกาสที่จะมีการเปิดตัวพาร์ทเนอร์ลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกในสัปดาห์หน้า