ดัชนีฟิวเจอร์หุ้นสหรัฐปรับขึ้น รับทรัมป์ยกเว้นภาษีสมาร์ทโฟน

ดัชนีฟิวเจอร์หุ้นสหรัฐปรับขึ้น รับทรัมป์ยกเว้นภาษีสมาร์ทโฟน

ตลาดหุ้นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นหลังจากสัปดาห์ที่ผันผวน ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาดูการยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนซึ่งสร้างความประหลาดใจ

ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ดัชนีฟิวเจอร์ หุ้นปรับตัวสูงขึ้นในวันอาทิตย์ ขณะที่ วอลล์สตรีท กำลังจับตาดูการเคลื่อนไหวด้านภาษีล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ดัชนีสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หุ้น S&P 500 futures ปรับตัวสูงขึ้น 0.6% ขณะที่ Nasdaq-100 futures ปรับตัวสูงขึ้น 0.9% สัญญาล่วงหน้าที่เชื่อมโยงกับ ดัชนีดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ปรับตัวสูงขึ้น 139 จุด หรือ 0.3%

ทรัมป์ยกเว้น สมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ รวมถึงอุปกรณ์และส่วนประกอบอื่นๆ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ จากภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ใหม่ของเขา ตามประกาศของสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ ที่ออกเมื่อช่วงเย็นของวันศุกร์

ทรัมป์สร้างความสับสนเรื่องภาษีอีกครั้ง

แต่ประธานาธิบดีและฮาวเวิร์ด ลัทนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ระบุในวันอาทิตย์ว่าการยกเว้นดังกล่าวไม่ใช่เป็นการยกเว้นภาษีให้ถาวร ทำให้เกิดความไม่แน่นอนด้านภาษีมากขึ้นอีก

ทรัมป์โพสต์ลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Truth Social ว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยังคง “อยู่ภายใต้ภาษีนำเข้าเฟนทานิล 20% ที่ยังคงใช้บังคับอยู่ และกำลังย้ายไปยังหมวดภาษีนำเข้าอื่น”

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่หุ้นเจ็ดนางฟ้า “Magnificent Seven” ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันหลังจากที่ประธานาธิบดีประกาศภาษีนำเข้า “วันปลดปล่อย” เมื่อต้นเดือนนี้ ดัชนีหุ้นเจ็ดนางฟ้าของซีเอ็นบีซี (CNBC Magnificent 7 Index) ลดลงประมาณ 5%

ตั้งแต่นั้นมาบริษัทแอปเปิล Apple เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยผู้ผลิต iPhone สูญเสียมูลค่าตลาดไปเกือบ 640,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงสามวันทำการหลังจากการประกาศภาษีแบบตอบโต้

สัปดาห์ที่แล้วถือเป็นสัปดาห์การซื้อขายที่ผันผวนที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้น ดัชนีความผันผวน (VIX) พุ่งสูงเหนือ 50 จุดในวันพฤหัสบดี

โดยราคาหุ้นย่อลงบางส่วนในวันพฤหัสบดีจากการพุ่งขึ้นสูงครั้งประวัติศาสตร์ในวันก่อนหน้า โดยในวันพุธ ตลาดพุ่งสูงขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ประกาศพักการขึ้นภาษีนำเข้าใหม่เป็นเวลา 90 วัน ทำให้ดัชนีหุ้นขึ้นในวันเดียวมากเป็นอันดับสามนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง

“การเลื่อนการจัดเก็บภาษีออกไปสำหรับสินค้าจากประเทศอื่นนอกจากจีน ในช่วงกลางสัปดาห์ รวมถึงผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธนาคาร และความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการแทรกแซงของเฟด (หากจำเป็น) ในช่วงปลายสัปดาห์ ช่วยผลักดันให้หุ้นสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น โดยบางคนยังมองว่าการฟื้นตัวในวันพุธนั้นเป็นผลจากการปิดสัญญาขายชอร์ต” ลอรี คัลวาซินา หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์หุ้นสหรัฐของ RBC Capital Markets กล่าว “ในขณะนี้ ดูเหมือนว่าสิ่งนี้จะชดเชยความกังวลที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับตลาดพันธบัตรและภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้”

แม้ว่าสัปดาห์ที่แล้วราคาหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ดัชนีหลักทั้งสามก็ยังคงลดลงลึกตั้งแต่มีการประกาศใช้มาตรการการจัดเก็บภาษีแบบตอบแทน ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 5.4% ขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite

และดัชนี Dow Jones Industrial Average ลดลงประมาณ 5% และ 4.8% ตามลำดับ

จับตารายงานผลประกอบการแบงก์ใหญ่

ตลาดกำลังเตรียมพร้อมสำหรับสัปดาห์แห่งการรายงานผลประกอบการครั้งใหญ่ โดยมีการประกาศผลประกอบการของธนาคารขนาดใหญ่ เช่นโกลด์แมน แซคส์  Goldman Sachs, Bank of Americaและ Citigroup

ยังมีบริษัทรายใหญ่อื่นๆ เช่น ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่เน็ตฟลิกซ์ Netflix และสายการบินหลัก United Airlines ก็เตรียมที่จะรายงานเช่นกัน