เม็ดเงินจ่ายปันผลสะพัดสุด ช่วงเม.ย. - พ.ค. 68 มูลค่ารวมแสนล้าน

"ตลาดหุ้นไทย" จะเผชิญปัจจัยลบกระทบตลาดหุ้นดิ่ง และผันผวนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทำให้วันนี้ยังประเมินทิศทางตลาดหุ้นได้ยาก ทั้งนโยบายธนาคารกลางสหรัฐ กระแสฟันด์โฟลว์หลังนโยบายสหรัฐตั้งกำแพงภาษีตอบโต้ประเทศที่ได้เปรียบจนสลับไปมากลายเป็นเลื่อนขึ้นภาษี ออกไป 90 วัน
แต่ขึ้นกำแพงภาษีพุ่งตรงไปยังจีน 145% เพื่อตอบโต้จีนไม่ยอมอ่อนข้อ และเข้าหาสหรัฐเหมือนประเทศอื่นๆ
หากรวมภาษีที่ปรับขึ้น และ Reciprocal tariffs, Universal tariffs และภาษีเฉพาะ (Specifics tariffs) ที่สหรัฐ เก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มขึ้นหลายครั้งตั้งแต่ต้นปีมานี้ จะพบว่า สหรัฐ ตั้งกำแพงภาษีนำเข้าทั่วโลกเฉลี่ย 17% แต่เศรษฐกิจเอเชีย และอาเซียนถูกเก็บภาษีเฉลี่ยสูงกว่าอยู่ที่ 23% และ 33% ตามลำดับ สาเหตุหลักเพราะประเทศเอเชียส่วนใหญ่เกินดุลการค้าสหรัฐมาก โดยเฉพาะอาเซียน
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้น ยังมีอีเวนต์ “หุ้นปันผล” ที่ทยอยขึ้นเครื่องหมาย XD เดือนมี.ค. และเม.ย. เพื่อเตรียมจ่ายเงินปันผลมากที่สุดในช่วงเดือนพ.ค. ซึ่ง บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) รวบรวม ปี 2568 พบว่า บริษัทจดทะเบียนจ่ายเงินปันผลสูงที่สุดในช่วง 14 เม.ย. - 18 เม.ย.2568 คิดเป็นมูลค่ารวม 7.7หมื่นล้านบาท (36% ของมูลค่าเงินปันผล) นำโดยกลุ่มการเงิน (อาทิ SCB - KTB - KBANK) จ่ายเงินปันผลรวมสูงถึง 6.9 หมื่นล้านบาท
ส่วนในช่วง 5 พ.ค. – 9 พ.ค.2568 จ่ายเงินปันผลรวม 6.4 หมื่นล้านบาท (30% ของมูลค่าเงินปันผล)จากทั้งกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เกษตร และบริการผลตอบแทนเฉลี่ย SETHD ในช่วงก่อนขึ้น XD มักให้ผลตอบแทนเป็นบวก
จากการวิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี 2554 ถึง 2567 พบว่าดัชนี SETHD ซึ่งเป็นดัชนีที่รวมหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลในระดับสูงอย่างสม่ำเสมอมักให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวกในช่วงก่อนที่จะขึ้น XD โดยเฉพาะในช่วง 30 วันก่อนขึ้น XD (หรือT-30ถึงT-1) ดัชนี SETHD มีผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ +3% หากพิจารณาแยกย่อยในช่วงเวลาดังกล่าวจะพบว่าในช่วง T-30 ถึง T-15 (15วันแรกก่อนขึ้นXD) ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่+1%
ขณะที่ช่วง T-14 ถึง T-1 (14วันสุดท้ายก่อนขึ้นXD) ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงขึ้นเป็น +2% แสดงให้เห็นว่านักลงทุนมักเริ่มเข้ามาเก็งกำไรก่อนขึ้น XD อย่างมากในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนถึงวัน XD นอกจากนี้เมื่อวิเคราะห์ผลตอบแทนของหุ้นรายตัวในดัชนี SETHD ช่วงเวลาเดียวกันพบว่าผลตอบแทนรายตัวมีความแตกต่างกันโดยกระจายอยู่ในช่วง -0.8% ถึง +5.8%
โดย "หุ้นที่มีผลตอบแทนสูงสุด 5 อันดับแรก" ได้แก่ COM7 (+5.8%, โอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวก67%) WHA (+5.0%, โอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวก55%) BANPU (+5.0%, โอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวก67%) KKP (+4.3%, โอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวก78%) BAM (+4.0%, โอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวก40%)
หุ้นเหล่านี้มีลักษณะร่วมกันบางประการ เช่น อัตราส่วน P/E ต่ำ(ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) และDividend Yield สูงกว่า 5% ซึ่งเป็นลักษณะที่นักลงทุนสายปันผลให้ความสนใจเป็นพิเศษเมื่อพิจารณาในเชิงกลุ่มอุตสาหกรรมจะพบว่าหุ้นในกลุ่มพลังงาน, ธนาคารและอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณสมบัติดังกล่าวมักให้ผลตอบแทนก่อนขึ้น XD สูงกว่าค่าเฉลี่ย
โดยมีผลตอบแทนสูงกว่า +2% และมีความน่าจะเป็นที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกมากกว่า 50% เช่นหุ้น KKP - BCP - HMPRO - TISCO - BANPU - SIRI - AP และ PTT จากข้อมูลทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสในการลงทุนเพื่อเก็งกำไรก่อนวันขึ้น XD โดยเฉพาะในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งปันผลสูง และราคายังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ
กลยุทธ์การลงทุนเราคาดหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก 1.การเก็งกำไรก่อนขึ้น XD เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน แล้ว 2. อัตราเงินปันผลเทียบกับราคา ณ ปัจจุบันสูงกว่า 2.5% พร้อมกับ 3.ความน่าจะเป็นที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกมากกว่า 50% เลือก AP - KKP - และ HMPRO เป็น Top picks อัตราเงินปันผลที่สูงและระดับ Valuation ในระดับที่น่าสนใจ ช่วยจำกัด Downside ในช่วงก่อน XD
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์






