เปิดตลาดพฤหัสบดีดาวโจนส์ร่วง 800 จุด หลังหุ้นฟื้นตัวแรงวันพุธ

ดัชนีดาวโจนส์ร่วง 800 จุด ช่วงเปิดตลาดพฤหสบีดี หลังจากที่หุ้นฟื้นตัวจากจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์ในวันพุธ นักวิเคราะห์เตือนความไม่แน่นอน แม้ทรัมป์เลื่อนภาษี
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ร่วงลงในช่วงเปิดตลาดวันพฤหัสบดี (10 เม.ย.)หลังจากที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดีดตัวสูงขึ้นอย่างมากในวันพุธ โดยได้รับแรงหนุนจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ประกาศผ่อนผันการขึ้นภาษีสินค้าให้กับหลายประเทศเป็นเวลา 90 วัน
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average
ร่วงลงประมาณ 800 จุด หรือ 2 % ดัชนี S&P 500 ลดลง 3% ในขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite ลดลง 3.7%
หุ้นที่ปรับตัวลดลงมากที่สุดคือ Apple และ Tesla
ซึ่งปรับตัวลดลงมากกว่า 3% และ 6% ตามลำดับ ส่วน Nvidia
ลดลง 5.4% ในขณะที่ Meta Platforms ลดลง 4%
การปรับตัวลดลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นมากกว่า 9% ในวันเดียวในวันพุธ ซึ่งถือเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นอันดับสามนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 ขณะที่ดัชนีแนสแด็กปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2001 และเป็นวันที่ดีที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์
การพุ่งขึ้นของราคาเริ่มขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ประกาศลดอัตราภาษีสำหรับประเทศส่วนใหญ่ลงชั่วคราวเป็น 10% เป็นเวลา 90 วัน อย่างไรก็ตาม แคนาดาและเม็กซิโกจะไม่ถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 10%
- สหภาพยุโรปเลือนบังคับใช้ภาษีตอบโต้ทรัมป์
ในวันพฤหัสบดี สหภาพยุโรปประกาศเลื่อนภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เป็นเวลา 90 วันในลักษณะเดียวกัน
ทรัมป์กล่าวว่า "ผมคิดว่าผู้คนกำลังทำอะไรเกินขอบเขตไปบ้าง พวกเขาเริ่มวิตกกังวลมากขึ้น คุณรู้ไหม พวกเขาเริ่มวิตกกังวลมากขึ้น และรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้น"
แน่นอนว่าอัตราภาษีดังกล่าวยังคงเหลือ 125% สำหรับสินค้าจากจีน ทรัมป์กล่าวว่าเขาคิดว่าสหรัฐฯ และจีนจะบรรลุข้อตกลงที่ดีมากในที่สุด
- กำแพงภาษียังสูงสุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ
แม้จะรู้สึกพอใจต่อมาตรการผ่อนผัน 90 วัน แต่บางคนในตลาดวอลล์สตรีทเชื่อว่าตลาดยังไม่พ้นจากปัญหา
“การขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนแต่เลื่อนภาษีนำเข้าให้ประเทสอื่นๆ ทำให้อัตราภาษีที่แท้จริงอยู่ที่ระดับ 23% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์” ไมเคิล กาเปน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำสหรัฐฯ ของธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์ เขียนในบันทึกเมื่อวันพฤหัสบดี “การชะลอภาษีช่วยได้ แต่ไม่ได้ลดความไม่แน่นอน”
ในช่วงการซื้อขายวันพุธ มีปริมาณการซื้อขายที่ผิดปกติอยู่ที่ประมาณ 30,000 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ ตามสถิติย้อนหลังไป 18 ปี
- เตือนความปั่นป่วนในตลาดอาจจะเกิดขึ้นอีก
คนอื่นๆ ก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกันท่ามกลางการพุ่งสูงของตลาด โดยเจฟฟรีย์ โรช แห่ง LPL Financial เชื่อว่า ในอนาคต อาจจะเกิดความปั่นป่วนในตลาดขึ้นอีก
“ความผันผวนของตลาดอาจยังคงสูงอยู่ แม้จะมีการหยุดการขึ้นภาษีนำเข้าเป็นเวลา 90 วันสำหรับประเทศที่ไม่ได้ตอบโต้” โรช หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ LPL Financial กล่าว “ข้อมูลสำคัญจากช่วงต้นปีบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัว โดยไม่เกี่ยวกับนโยบายการค้า”
ดัชนีหลักยังคงลดลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่มีการประกาศภาษีศุลกากรเมื่อวันที่ 2 เมษายน ดัชนี S&P 500 ลดลงมากกว่า 6% ในช่วงเวลาดังกล่าว พร้อมกับดัชนี Dow และ Nasdaq
- เงินเฟ้อมีนาคมต่ำกว่าคาด
รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคล่าสุดแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อชะลอลงเหลือ 2.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมีนาคม ซึ่งต่ำกว่าที่ Dow Jones คาดการณ์ไว้ว่าจะสูงขึ้น 2.6%







