ดาวโจนส์พุ่งขึ้น 2,900 จุด หลังทรัมป์เปลี่ยนใจไม่ขึ้นภาษีสินค้า

ดาวโจนส์พุ่งขึ้น 2,900 จุด หลังทรัมป์เปลี่ยนใจไม่ขึ้นภาษีสินค้า

ดัชนีดาวโจนส์พุ่ง 2,900 จุด ดัชนี S&P 500 พุ่งสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008 หลังทรัมป์เปลี่ยนใจไม่ขึ้นภาษีสินค้าในอัตราสูงสำหรับหลายประเทศ ยกเว้นจีนที่ถูกเก็บเพิ่มหนัก

ซีเอ็นบีซี รายงานภาวะตลาดหุ้นวันพุธ(9 เม.ย.68) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาไทยว่า ดัชนีดาวโจนส์พุ่ง 2,900 จุด ดัชนี S&P 500 พุ่งสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008( 2551) หลังทรัมป์เปลี่ยนใจไม่ขึ้นภาษีสินค้าบางรายการโดยหยุดไว้ 90 วัน หลังตลาดหุ้นเผชิญแรงกดดันอย่างหนักตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาพุ่งสูงขึ้น

ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 9.52% ปิดที่ 5,456.90 จุด ถือเป็นการพุ่งขึ้นในวันเดียวสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008 สำหรับดัชนีตลาดโดยรวม ถือเป็นการพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นอันดับสามในประวัติศาสตร์หลังสงครามโลกครั้งที่ 2  ด้านดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average

พุ่งขึ้น 2,962.86 จุด หรือ 7.87% ปิดที่ 40,608.45 จุด ถือเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 ขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite พุ่งทะยานขึ้น 12.16% ปิดที่ 17,124.97 จุด เป็นการเพิ่มขึ้นในวันเดียวสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2001 และเป็นวันที่ดีที่สุดเป็นอันดับสอง

มีการซื้อขายหุ้นราว 3 หมื่นล้านหุ้น ทำให้วันนี้เป็นวันที่มีการซื้อขายหุ้นมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของวอลล์สตรีท ตามบันทึกย้อนหลัง 18 ปี

ทรัมป์ระงับภาษีตอบโต้ไว้ 90 วัน

“ผมได้อนุญาตให้ระงับภาษีไว้เป็นเวลา 90 วัน และลดภาษีศุลกากรตอบโต้ลงอย่างมากเป็น 10% ในช่วงเวลาดังกล่าว โดยจะมีผลบังคับใช้ทันทีเช่นกัน” ทรัมป์โพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Truth Social ของเขา ในโพสต์เดียวกัน ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะขึ้นภาษีศุลกากรกับจีนอีกครั้งเป็น 125%

ต่อมา รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง สก็อตต์ เบสเซนต์ ได้ชี้แจงว่า ประเทศต่างๆ ยกเว้นจีน จะกลับไปใช้ภาษีพื้นฐาน 10% ซึ่งลดลงจากอัตราที่สูงกว่าที่เคยทำช็อกตลาด เมื่อการเจรจาเกิดขึ้น เบสเซนต์ กล่าวว่า การระงับภาษีนี้จะไม่ใช้กับภาษีเฉพาะส่วนธุรกิจบางภาค

หุ้นที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าอย่างหนัก กลายเป็นแรงผลักดันให้ราคาหุ้นฟื้นตัวในช่วงบ่ายวันพุธ โดยราคาหุ้นของ Apple และ Nvidia พุ่งทะยานขึ้นมากกว่า 15% และเกือบ 19% ตามลำดับ หุ้นของ Walmart พุ่งสูงขึ้น 9.6%

หุ้นของ Tesla พุ่งสูงขึ้นมากกว่า 22% จากการประกาศหยุดภาษีอัตราสูงไว้ชั่วคราว

 

ภาษีสินค้าจีนสูงถึง 125%

“เมื่อพิจารณาจากราคาหุ้นที่ตกต่ำ และความรู้สึกที่เปลี่ยนไป การหยุดภาษีไว้ 90 วันได้จุดชนวนให้เกิดการฟื้นตัวอย่างรุนแรง และการเลื่อนการบังคับใช้ออกไปนั้นแน่นอนว่าจะขจัดอุปสรรคขนาดใหญ่ออกไปจากตลาด” อดัม คริซาฟูลลี ผู้ก่อตั้ง Vital Knowledge กล่าว “แต่ภาษีจะไม่หายไป อัตราภาษีของจีนตอนนี้อยู่ที่สามหลักแล้ว และใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีก 90 วันเมื่อการหยุดชะงักนี้สิ้นสุดลง”

ทรัมป์ประกาศเพิ่มภาษีสินค้าจีนสูงเป็น 125% จาก 104% ที่ประกาศก่อนหน้านี้

ก่อนที่จะมีการประกาศหยุดกำแพงภาษีไว้ 90 วัน นักลงทุนต่างก็วิตกกังวลเกี่ยวกับการตอบโต้กันระหว่างจีน และทรัมป์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ สหภาพยุโรปยังได้อนุมัติภาษีศุลกากรชุดแรกกับสหรัฐ ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 15 เมษายนด้วย

อย่างไรก็ตาม หุ้นยังคงมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงบ่าย นักลงทุนรู้สึกมีกำลังใจหลังจากที่เบสเซนต์ระบุว่าเขาจะรับบทบาทนำในการเจรจาเรื่องภาษีศุลกากร ประธานาธิบดีทรัมป์ยังเรียกร้องให้นักลงทุนทราบว่าตอนนี้เป็น "เวลาที่ดีในการซื้อ" ไม่นานหลังจากตลาดเปิดทำการในโพสต์บน Truth Social

การประกาศระงับการขึ้นภาษีของทรัมป์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.18 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ เมื่อดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 350 จุดในวันนั้น ไม่กี่วินาทีต่อมา ดัชนีหุ้น 30 ตัวพุ่งสูงขึ้นมากกว่า 2,000 จุด

ในการแถลงข่าวช่วงบ่าย ทรัมป์กล่าวว่า นักลงทุนมีความกังวลมากเกินไป

“ผมคิดว่าผู้คนกำลังกระโดดข้ามเส้นไปเล็กน้อย พวกเขาเริ่มตื่นตระหนก คุณรู้ไหม พวกเขาเริ่มตื่นตระหนกเล็กน้อย และรู้สึกกลัวเล็กน้อย” ทรัมป์ กล่าว

ตลาดยังกังวล

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเปิดตัวภาษีศุลกากรเป็นแรงผลักดันให้หุ้นตกต่ำเป็นเวลาสี่วัน ในช่วงสี่เซสชันการซื้อขายก่อนหน้านี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลงมากกว่า 4,500 จุด ในขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 12% ดัชนี Nasdaq Composite ลดลงมากกว่า 13% ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการลดลงที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19

“สิ่งนี้ทำให้สามารถฟื้นตัวได้อย่างน้อยในระยะใกล้ แต่ผมจะไม่สรุปว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว” แซม สโตวอลล์ หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของ CFRA Research กล่าวเสริม “หลอกผมหนึ่งครั้ง คุณน่าละอาย หลอกผมห้าครั้ง ผมน่าละอาย”

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์