บล.ฟินันเซีย ไซรัส จับตาเจรจาภาษีทรัมป์ จากการค้าสะเทือนตลาดทุน

บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองเจรจาภาษีทรัมป์ หากล่ามจากการค้า สู่ตลาดเงิน - ตลาดทุน ผลกระทบแรงขึ้น มองหุ้นไทย มีดาวน์ไซด์ ยังไม่ถึงจุดต่ำสุด ให้แนวรับ หลุด 1,000 จุด
จากเวทีเสวนาโต๊ะกลม (Roundtable) “Trump’s Global Quake: Thailand Survival Strategy” จัดโดย กรุงเทพธุรกิจ ฐานเศรษฐกิจ และ โพสต์ทูเดย์ หัวข้อ ผ่ากำแพงภาษี "ทรัมป์" ฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ เมื่อ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จุดไฟสงครามเศรษฐกิจรอบใหม่ ไทยโดนหางเลขเต็มๆ ด้วยภาษี 36% แล้วเราจะเอายังไงต่อดี?
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้าส่วนงานกลยุทธ์การลงทุนต่างประเทศ บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กำแพงภาษีทรัมป์ส่งผลกระทบบนแคปปิตอลมาร์เก็ต เชื่อว่า ความสั่นคลอน ตอนนี้ระดับ Level 1 แต่ระดับ Level 2 ที่ต้องเจอ หากสหรัฐหยิบภาพของตลาดทุนเข้ามาเจรจาเมื่อไหร่ อาจจะเป็นสตอรี่ที่น่าตื่นเต้น และอาจจะรุนแรงกว่าตอนนี้
ตอนนี้ เป็นภาพ Mar-a-LagoAccord ระเบียบการเงินใหม่จากสหรัฐ ที่มาตกลงตัวเลขหนึ่งที่บ้านทรัมป์ได้ระดับหนึ่ง ให้ทุกคนพอมีเงินใช้จ่าย ซื้อของสหรัฐ มีเงินใช้หนี้สหรัฐได้ หรือจ่ายหนี้แทนสหรัฐได้ มองว่าเป็น Big Great Impact ที่น่าจะเป็นไป
“หลังจากทรัมป์ออกนโยบายภาษีแบบกราดโดนทุกคนแล้ว จะมาเจรจารายประเทศไม่ได้ เพราะแม้ว่าเราไปเจรจาเป็นประเทศย่อยๆ ก็ไม่ได้ผลอะไร สุดท้ายเขาต้องเอาระดับตัวท็อปเข้ามาเจรจา แต่ตัวท็อปจะเข้ามาต้องเป็นการเจรจาแบบทีเดียวจบ แต่ยังเชื่อว่า การเจรจาเป็นสิ่งที่ดี แต่หากเราไปแจกของให้เขาหมดเลย ไม่เช่นนั้นยิ่งทำให้สมการนี้ยิ่งซับซ้อนหนักกว่าเดิม”
ส่วนทางรอดนั้นมี 2 คำถามที่ไม่มีคำตอบให้ คือ 1. ถ้าเราไม่ขายให้สหรัฐ จะทำอย่างไร ขายกันเองหรือขายให้ใครได้หรือไม่ 2. ถ้าสหรัฐต้องจ่ายแพงขึ้น และยังมีความจำเป็นอะไรต้องซื้อจากไทยหรือไม่ เพราะของเราดีจริง ต้องซื้อ ซื้อที่อื่นไม่ได้แล้ว เราขยับมูลค่าได้เอง
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยหลังจากนี้ ยังมี “ดาวน์ไซด์” จากกำแพงภาษีของทรัมป์ ไม่ใช่ข่าวดีกับเราจนกว่าจะมีข่าวดีเข้ามา และตลาดจะเป็นจุดต่ำสุด ก็ต่อเมื่อมีข่าวเลวร้ายเกิดขึ้นแล้วดัชนีไม่ลงไปอีก หลังจากนั้นมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นมา
แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นนั้น และมองกรอบดัชนีแนวรับทางจิตวิทยาที่ระดับ 999 จุด เป็นจุดที่ควรจะรีบาวด์ขึ้น
โดยนักลงทุนที่มีหุ้นในมือ แนะนำว่า ระยะสั้น อีก 3-6 เดือน ต้องเจอกับข่าวร้าย หากถ้าทรัมป์เก็บภาษีจริง ตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ปีนี้ซึ่งรายงานช่วงเดือนก.ค.จะออกมาแย่ลง นักลงทุนต้อง “ตั้งรับ” พิจารณาจาก Valuations หุ้นไทยรับข่าวเร็วมาก แต่กำไรไม่โดนถึง 30% บางบริษัทโดนบางบริษัทก็ไม่โดน มองว่า ภาคการเงิน ควรได้ประโยชน์สูงสุด จากทุกคนคาดว่าจะมีนโยบายการคลังเข้ามาสนับสนุน และไม่เกิด กรณีแบงก์รัน ทำให้กลุ่มหุ้นแบงก์สามารถเข้ามาสะสมได้เช่นกัน
ส่วนหุ้นต่างประเทศ อย่างหุ้นสหรัฐ แนะกลยุทธ์สลับเปลี่ยนกลุ่ม ยังไม่ต้องออกจากตลาด เปลี่ยนจากกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค และValuation ที่แพงเกินไป เมื่อตลาดแพนิค ทำให้ราคาหุ้นปรับลง มองเป็นโอกาสเข้าชอปปิงได้
เช่นเดียวกับยุโรป ญี่ปุ่น จีน ยังได้ประโยชน์ เพราะเราต้องอยู่ในโลกที่เป็นไบโพล่าตลอดไป ต้องมีทั้งตลาดสหรัฐ และตลาดที่สอง กระจายความเสี่ยงพอร์ตลงทุน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์