ดัชนี S&P 500 ปรับฐาน ร่วงลงแล้ว 10% จากการขู่ขึ้นภาษีของทรัมป์

ดัชนี S&P 500 ปรับฐาน ร่วงลงแล้ว 10% จากการขู่ขึ้นภาษีของทรัมป์

หุ้นสหรัฐดิ่งลงต่อในวันพฤหัสบดี ไม่สามารถฟื้นตัวจากภาวะซบเซาของตลาดในรอบ 3 สัปดาห์ได้ โดยได้รับผลกระทบจากการขู่ขึ้นภาษีสินค้าเพิ่ม จากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ซีเอ็นบีซี รายงานภาวะหุ้นวอลล์สตรีทวันพฤหัสบดี (13 มี.ค.) ว่า ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 1.39% ปิดตลาดที่ 5,521.52 จุด ทำให้ดัชนีลดลงแล้ว 10.1% จากระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดัชนี Dow Jones Industrial Average

ร่วงลง 537.36 จุด หรือ 1.3% ถือเป็นการปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 4 และปิดที่ 40,813.57 จุด ดัชนี Nasdaq Composite ดิ่งลง 1.96% โดยหุ้น Tesla และ Apple ร่วงลงประมาณ 3%

เช้าวันพฤหัสบดี ทรัมป์ ได้ใช้แพลตฟอร์ม Truth Social ขู่ว่าจะขึ้นภาษี 200% สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องแอลกอฮอล์ทุกชนิดที่นำเข้าจากประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรป เพื่อเป็นการตอบโต้ที่สหภาพยุโรปเรียกเก็บภาษีวิสกี้สหรัฐ 50% 

"นี่จะเป็นเรื่องดีสำหรับธุรกิจไวน์และแชมเปญในสหรัฐฯ" ทรัมป์กล่าว ต่อมาทรัมป์กล่าวว่าเขาจะไม่เปลี่ยนใจเกี่ยวกับการขึ้นภาษีในวงกว้างซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เมษายน

การดำเนินนโยบายการค้าของทรัมป์อย่างไร้ระเบียบทำให้ตลาดเกิดความปั่นป่วนในเดือนนี้ โดยนักลงทุนกังวลว่านโยบายดังกล่าวจะกดดันความเชื่อมั่นของบริษัทและผู้บริโภค

หุ้นร่วงรุนแรงยิ่งขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยดัชนี S&P 500 และ Nasdaq มีแนวโน้มจะดิ่งลง 4.3% และ 4.9% ตามลำดับในสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงราว 4.7% ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งถือเป็นสัปดาห์ที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2022

ก่อนการซื้อขายในวันพฤหัสบดี ดัชนี Nasdaq ได้ปรับฐานเรียบร้อยแล้ว และขณะนี้อยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดล่าสุดถึง 14% ดัชนี Russell 2000 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นขนาดเล็ก กำลังเข้าใกล้ภาวะตลาดหมี โดยปรับตัวลงประมาณ 19% จากจุดสูงสุด

สำหรับตลาดหุ้นวอลล์สตรีท การปรับฐานหมายถึงการลดลง 10% และตลาดหมีหมายถึงการร่วงลง 20%

“สงครามภาษีศุลกากรกำลังทวีความรุนแรงขึ้นก่อนที่จะคลี่คลายลง มันยิ่งทำให้ไม่สามารถคาดเดาอะไรได้และเพิ่มความไม่แน่นอน และชัดเจนว่า มันเป็นผลลบต่อหุ้น” เจด เอลเลอร์โบรก ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอของกองทุน Argent Capital Management กล่าว

ในวันพฤหัสบดีเดียวกัน สก็อตต์ เบสเซนท์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่ารัฐบาลของทรัมป์ให้ความสำคัญกับสภาพเศรษฐกิจและตลาดในระยะยาวมากกว่าการเคลื่อนไหวในระยะสั้น “ผมไม่กังวลเกี่ยวกับความผันผวนเล็กน้อยในช่วงสามสัปดาห์นี้” เขากล่าวกับซีเอ็นบีซี

หุ้นร่วงลงแม้จะมีสัญญาณเงินเฟ้อที่น่าพอใจ ดัชนีราคาผู้ผลิตในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งวัดต้นทุนการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ทรงตัวหรือ 0.0% จากเดือนมกราคมที่เพิ่มขึ้น 0.6% ต่อเดือนในขณะที่ตลาดคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น

และดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนกุมภาพันธ์ก็เพิ่มขึ้น 0.2%ต่อเดือนและ 2.8%ในรอบปีซึ่งอยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาดไว้

แม้ว่านักกลยุทธ์ตลาดจะเฝ้ารอการดีดตัวทางเทคนิคหลังจากการเทขายเมื่อเร็วๆ นี้ แต่บางคนก็บอกว่าข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดอาจไม่เพียงพอที่จะนำไปสู่การดีดตัวกลับที่สำคัญ ความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าของทรัมป์ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และทำให้เกิดคำถามว่าธนาคารกลางสหรัฐจะดำเนินการกับอัตราดอกเบี้ยอย่างไร