ตลท.เปิดเกณฑ์หุ้นเข้า Thai ESGX  ยัน GULF -INTUCH ควบรวม เม.ย. ไม่หลุดโผ ลงทุนได้

ตลท.เปิดเกณฑ์หุ้นเข้า Thai ESGX  ยัน GULF -INTUCH ควบรวม เม.ย. ไม่หลุดโผ ลงทุนได้

ตลท.เปิดเกณฑ์หุ้นเข้า Thai ESGX  มี 242 บริษัท ด้าน GULF - INTUCH ควบรวม เดือน เม.ย.นี้ ไม่หลุดโผ ติดเข้าเกณฑ์ Thai ESGX ระดับ AAA ลงทุนได้ ขณะที่ สมาคม บลจ. คาดเม็ดเงินใหม่เข้ามาประมาณ 30,000 ล้านบาท

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า  สำหรับกองทุน ThaiESG และ TESGSX ซึ่งมีรายชื่อหุ้นยั่งยืน หรือ SET ESG Ratings และหุ้นไทยที่มีการเปิดรายข้อมูลก๊าซเรือนกระจก 242 บริษัท โดยแบ่งเป็น เรตติ้งระดับ AAA ที่ 56 บริษัท เรตติ้งระดับ AA ที่ 80 บริษัท เรตติ้งระดับ A ที่ 71 บริษัท เรตติ้งระดับ BBB ที่ 21 บริษัท และ GHG Non rating ที่ 14 บริษัท 

ทั้งนี้ ในส่วนของ  GULF หรือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ  INTUCH บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งปัจจุบันได้มีรายชื่ออยู่ในลิสต์กองทุน ThaiESG และ TESGSX และหากมีการควบรวมกันขึ้นที่คาดว่าจะเสร็จภายในเดือนเม.ย.นี้ โดยบริษัทใหม่ที่มีการควบรวมแล้วเสร็จก็จะยังคงอยู่ในลิสตื้กองทุน ThaiESG และ TESGSX ต่อไป ซึ่งบริษัทใหม่อันดับ ESG เรตติ้งอยู่ที่ระดับ AAA

ด้าน นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า กองทุน Thai ESGX ที่ลงทุนหุ้นกลุ่มยั่งยืนใน SET หรือ mai ไม่น้อยกว่า 65%  ซึ่งต้องเป็นหุ้นที่เข้าเกณฑ์ 1 ใน 3 เกณฑ์ ประกอบไปด้วยต้องเป็นบริษัทที่มีเรทติ้งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล หรือเป็นบริษัทที่ได้รับเรทติ้งด้าน SET ESG Rating หรือในระดับสากลอื่น ๆ เช่น FTSE, MSCI เป็นต้น

รวมถึงเป็นบริษัทที่เปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และผ่านการได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก หรือ อบก. และเป็นบริษัทที่มีการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน หรือ CGR ซึ่งดำเนินการโดย สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย  เกินกว่า 90 คะแนน และเปิดเผยข้อมูลใน ESG Data Platform ของตลท.เกิน 85% 

อย่างไรก็ตามแม้ บางบริษัทที่ไม่มี ESG Rating แต่เข้าเกณฑ์ข้อใดข้อหนึ่ง Thai ESGX ก็สามารถลงทุนได้

โดยการจัดตั้งกองทุน Thai ESGX เป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยหนุนตลาดได้ ในภาวะที่ตลาดมีความผันผวน ขณะที่เกณฑ์ของ ก.ล.ต. ถ้ามี Rating ในระดับสากลก็เข้าเกณฑ์ของ Thai ESGX ได้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

ด้านนางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสมาคมฯ กำลังอยู่ระหว่างการพูดคุยกับ ก.ล.ต.และคาดว่าในช่วงเดือนเม.ย.2568 จะยื่นไฟลิ่งกับ ก.ล.ต.ในกองทุนใหม่ และ ก.ล.ต.ต้องทำการอนุมัติให้ทันในช่วงเดือน เดือน เม.ย.2568 เพื่อให้ต้นเดือน พ.ค.จะขายทำการขายพร้อมกัน 

ทั้งนี้ สิ้นเดือน ก.พ.2568 มีเงินอยู่ในกองทุน Thai ESG ประมาณ 30,000 กว่าล้านบาท ขณะที่กองทุน LTF เดิมที่ยังคงค้างอยู่ในระบบกว่า 1.8 แสนล้านบาท โดยในช่วงที่มีการเปิดขายกองทุน TESGSX ใน พ.ค.จะมีการอธิบายให้นักลงทุนเข้าใจอย่างเข้มข้น เพื่อให้นักลงทุนรับทราบถึงสิทธิประโยชน์ทางภาษีมากขึ้น โดยทุก บลจ.จะออกขายพร้อมกันทุก บลจ. ในเดือน พ.ค.คาดว่าเม็ดเงินใหม่เข้ามาลงทุนประมาณ 30,000 ล้านบาท

"กองทุนนี้มีความชัดเจนของการลงทุนในหุ้น 65% โดยในช่วงที่มีการเปิดขายใน พ.ค.จะมีการอธิบายให้นักลงทุนเข้าใจอย่างเข้มข้น เพื่อให้นักลงทุนรับทราบถึงสิทธิประโยชน์ทางภาษีมากขึ้น โดยทุก บลจ.จะออกกองทุน Thai ESG Extra พร้อมกัน ในเดือน พ.ค.ขณะที่กองทุน LTF เดิมที่ยังคงค้างอยู่ในระบบกว่า 1.8 แสนล้านบาท" 

จัดตั้งกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนกองทุนใหม่ หรือเรียกว่ากองทุน Thai ESG Extra หรือ Thai ESGX ขึ้นมา จะได้สิทธิทางภาษี 300,000 บาท ซึ่งหากเป็นนักลงทุนใหม่จะได้รับสิทธิเต็มจำนวน 

ส่วนนักลงทุนในกองทุน LTF สามารถโอนเงินเข้ามาอยู่ในกองทุน Thai ESG Extra ได้ โดยสิทธิกองทุน LTF ที่นักลงทุนจะได้รับ 500,000 บาท โดยในปีแรกนักลงทุนจะได้รับสิทธิทางภาษี 300,000 บาท ในช่วงเวลา 2 จัดตั้งกองทุน ตั้งแต่ พ.ค.-มิ.ย.2568 และ 4 ปีที่เหลือปีละไม่เกิน 50,000 บาท และกองทุน Thai ESG เดิมสิทธิทางภาษี 300,000 บาท รวมทั้งหมดในปีนี้จะได้สิทธิทางภาษี 900,000 บาท

โดยในส่วนของกองทุน LTF นักลงทุนสามารถแจ้งความจำนงกับทาง บลจ.ได้ว่าจะใช้สิทธิทางภาษี และบลจ.จะเป็นผู้ดำเนินการให้ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม แต่ต้องทำการโอนมาทั้งหมดที่มีในทุก ๆ บลจ.ที่มีการเปิดกองทุน LTF ซึ่งหากนักลงทุนแจ้งไม่ครบจะเกิดปัญหา ในเงินที่ยังอยู่ในกองทุน LTF จะไม่ถูกโอนมาที่ Thai ESG Extra ใหม่

นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า เพื่อให้สอดรับกับแนวนโยบายของภาครัฐที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนผ่าน Thai ESGX ก.ล.ต. จะเสนอคณะกรรมการกำกับตลาดทุน (ก.ต.ท.) เพื่อพิจารณาหลักการจัดตั้งและจัดการ Thai ESGX และจะเร่งออกประกาศรองรับ โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้ บลจ. ยื่นขออนุมัติจัดตั้ง Thai ESGX ได้ภายในเดือนเมษายน 2568

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวนอกจากจะเป็นการสนับสนุนการลงทุนในกิจการในประเทศที่จะขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย โดยใช้กองทุนรวมในตลาดทุนเป็นกลไกที่ช่วยให้บรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติด้านความยั่งยืนแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนการออมระยะยาวผ่านการลงทุนในตลาดทุนด้วย

มาตรการการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม จากกอง Thai ESG ปกติ ที่ได้รับลดหย่อน 300,000 บาท โดยในปีนี้ หากลงทุนเพิ่มในกอง Thai ESGX (วงลดหย่อน 1) จะได้ลดหย่อนภาษีสูงสุดอีก 300,000 บาท

นอกจากนี้ ยังสามารถลดหย่อนภาษีสูงสุดอีก 300,000 บาท (วงลดหย่อน 2) หากว่า ผู้ถือหน่วยกองทุน LTF ได้สับเปลี่ยนหน่วยในกองทุน LTF ที่ถือครอง ณ วันนี้ ทั้งหมด เข้ามายังกองทุน Thai ESGX โดยในส่วนของวงลดหย่อน 2 ยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกปีละ 50,000 บาท เป็นระยะเวลาอีก 4 ปี ซึ่งต้องเป็นไปตามเงื่อนไข

ขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ เนื่องจากหากมีการขายหน่วยลงทุน LTF นับจากวันที่ ครม. มีมติ จะทำให้ไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในวงลดหย่อน 2 ได้