โบรกปรับ EPS ปี 68 เหลือ 86-88  บาท/หุ้น หลังกำไร Q4/67 ปิโตรฯฉุดต่ำคาด 1,362%

โบรกปรับ EPS ปี 68 เหลือ 86-88  บาท/หุ้น หลังกำไร Q4/67 ปิโตรฯฉุดต่ำคาด 1,362%

บล.เมย์แบงก์ หั่น EPS หุ้นไทยลง 3-5 % เหลือ 86-88 บาทต่อหุ้นจากเดิม 97 บาทต่อหุ้น จากภาพรวมกำไรบจ.ไตรมาส 4 ที่ 1.9 แสนล้านบาทแต่ 3 กลุ่มฉุดต่ำกว่าคาดนำโด่ง กลุ่มปิโตรฯ -1,362 % กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ -78% และกลุ่มพลังงาน -34%

          บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ (ประเทศไทย)   สรุปผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนของไทยปี 2567 ได้ทยอยรายงานกือบ 100 %  พบว่ากำไบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4 ปี 2567  ขยายตัวทั้ง QoQ และ YoY

        การรายงานกำไรบริษัทจดทะเบียนใน SET Index (ไม่รวมPF&REITและ THAI) งวดไตรมาส 4 ปี 2567  ข้อมูลถึงวันที่ 3 ก.พ. 2568   คิดเป็น  94%  ของมาร์เก็ตแคป  สามารถทำกำไรสุทธิรวม  1.97  แสนล้านบาทขยายตัว 5%  QoQ และ  37%YoY กลุ่มที่ปรับขึ้นเด่นทั้ง QoQ และ YoY ในงวดนี้มาจากกลุ่มท่องเที่ยวโรงแรมขยายตัว  2,834%  QoQ และ 267% YoY ที่ได้ผลบวกจากการเข้าสู่ High Season และบันทึกรายพิเศษของ MINT และ  CENTEL 

      

       กลุ่มค้าปลีกขยายตัว 39% QoQ และ17%YoY จากผลการดำเนินงานที่โดดเด่นยอดขายและประสิทธิภาพการทำกำไรของ CPALL และ CPAXT กลุ่มพลังงานขยายตัว 12% QoQ และ 5% YoY หนุนจากการฟื้นตัวกลุ่มโรงกลั่น BCP และ SPRC ที่ได้ประโยชน์จากฐานต่ำและการพลิกมากำไรของ OR

       แม้กำไรไตรมาส  4 ปี 2567 ขยายตัวแต่ไม่มากพอเมื่อเทียบกับตลาดคาดหวังผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2567  เฉพาะที่มีคาดการณ์ของ  Bloomberg Consensus (ไม่รวม PF&REIT) ทั้งสิ้น 209  บริษัท คิดเป็นสัดส่วน  89% มาร์เก็ตแคปของ  SET Index ทำกำไรต่ำกว่าตลาดคาด -12% 

         โดยกลุ่มที่กำไรต่ำกว่าคาดนำโดยกลุ่มปิโตรฯ ต่ำคาด -1,362% จาก PTTGC และ IVL จาก Spread ที่ฟื้นช้า กลุ่มพลังงานต่ำคาด -34% จากการรายการพิเศษรวมถึงกำไรจากการดำเนินงานที่ฟื้นช้ากว่าตลาดคาดของ  IRPC - BSRC - SPRC  และ PTT และกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์กำไรต่ำคาด -78% ทั้ง DELTA จากค่าใช้จ่าย Royalty Fee สูงกว่าคาด   KCE และ HANA  ยอดขายที่หดตัวกระทบต่อประสิทธิภาพ การทำกำไร

        อย่างไรก็ตามหากไม่รวมกำไรไตรมาส 4ปี 2567   จาก 3  กลุ่มข้างต้นพบว่ากำไรโดยรวมดีกว่าตลาดคาดเล็กน้อย 3.7% ส่วนกลุ่มที่ขยายตัวดีกว่าคาดกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่กำไรมากกว่าตลาดคาด 64% แต่หลักๆมาจากกำไรพิเศษของ SCCC กลุ่มอสังหาฯมากกว่าคาด 19% มาจาก SPALI แต่จุดที่ดีกว่าคาดมาจากรายได้อื่น (ดอกเบี้ยรับ) แต่กำไรจากการดำเนินงานใกล้เคียงตลาดคาด AWC จากกำไรจากการดำเนินงานที่ดีกว่าคาด

       การปรับลด EPS ปี 2568 ยังมีอยู่ประเมิน Downside เบื้องต้น 3-5%  หลังกำไรไตรมาส 4 ปี 2567  ที่ออกมาต่ำกว่าคาด จึงเป็นความเสี่ยงต่อการปรับลดประมาณการกำไรบริษัทฯตามมา   ซึ่งปัจจุบัน  BB Consensus ปรับลด   EPS68  อยู่ที่95บาท/หุ้น  (ลงจากต้นปีที่คาด 97บาท/หุ้น)   เทียบกับคาดการณ์ของ   EPS68  ของบล.เมย์แบงก์ ที่ 91บาท/หุ้น (ปรับลงจากต้นปีที่94บาท/หุ้น)  

         โบรกปรับ EPS ปี 68 เหลือ 86-88  บาท/หุ้น หลังกำไร Q4/67 ปิโตรฯฉุดต่ำคาด 1,362%

        โดยได้ประเมิน Downside ในการปรับลดประมาณการ EPS68 จะอยู่ในช่วง  3-5%  จากคาดการณ์  EPS68  ปัจจุบันหรืออยู่ในช่วง 86-88  บาทต่อหุ้น โดยหุ้นที่เสี่ยงสูงที่จะถูกปรับลดประมาณกำไรการลง คือ กลุ่มปิโตรฯกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ จึงแนะนำ Underweight กับ 2 กลุ่มดังกล่าว

       สำหรับกลยุทธ์การลงทุนบน Theme Earnings Play คาดหุ้นที่จะสามารถ Outperform ตลาดในระยะนี้เป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำที่จะถูกปรับลดประมาณการกำไรและแนวโน้มกำไรปี 2568 ยังคงเติบโตแต่ราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปีกลับปรับลง (เกิน 10%) มี 7หุ้นที่น่าสนใจ คือ BA  - COM7 - PR9 - SAK  - ERW  -CPN และ BBIK