CPALL กำไรปี 67 ที่ 2 หมื่นล้านพุ่ง 37.1% จากธุรกิจหลัก-ปันผล 1.35 บาท

CPALL กำไรปี 67 ที่ 2 หมื่นล้านพุ่ง 37.1% จากธุรกิจหลัก-ปันผล 1.35 บาท

CPALL กำไรพุ่ง 25,346 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.1 % จากทุกธุรกิจและรับรู้กำไรจากธุรกิจร่วมทุน ต้นุทนการเงินลด พร้อม จ่ายปันผล 1.35 บาท XD 6 พ.ค.

           บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL  ปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 987,794 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 คิดเป็นร้อยละ 7.2 รายได้รวมก่อนหักรายการระหว่างกัน แบ่งสัดส่วนตาม 3 ธุรกิจหลัก มีดังนี้ (กลุ่ม 1) รายได้จากธุรกิจร้านสะดวกซื้อ มีสัดส่วนร้อยละ 45 (กลุ่ม 2) รายได้จากธุรกิจค้าส่งค้าปลีกและศูนย์การค้า ร้อยละ 48 และ (กลุ่ม 3) รายได้จากธุรกิจอื่นๆ ใน ประเทศไทยมีสัดส่วนร้อยละ 7

          โดยสัดส่วนรายได้ของกลุ่มธุรกิจ (กลุ่ม 1) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า รายได้จากการขายสินค้าและบริการ – มีจำนวน 958,998 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.1 จากปีก่อนหน้า จากการที่ บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ด้านสินค้าและบริการตลอดเวลา รวมถึงกลยุทธ์ O2O ของแต่ละหน่วยธุรกิจ ให้ตอบสนองความ ต้องการของลูกค้า และเพื่อสอดรับกับทุกสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา

       ทั้งนี้รายได้รวมในปีนี้ ในทุกกลุ่มธุรกิจปรับตัวดีขึ้นจาก ปีก่อนหน้า จากการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ตามการบริโภคภายในประเทศที่ยังมีการขยายตัวจากมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจของรัฐบาลตลอดทั้งปี รวมถึงการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเพิ่มขึ้นในปี 2567

        นอกจากนี้ธุรกิจค้าส่งค้า ปลีกและศูนย์การค้า ทั้งธุรกิจแม็คโคร และโลตัสส์ มีการเติบโตของรายได้จากการขายและบริการที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน อื่นๆ – ประกอบด้วย ดอกเบี้ยรับ เงินปันผลรับ กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ และรายได้อื่น รวม 28,796 ล้าน บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.2 โดยมีสาเหตุหลักจากรายได้อื่น เพิ่มขึ้น 3,053 ล้านบาทจากปีก่อน อันเกิดจากรายได้ทางการตลาด ที่แปรผันตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น

              กำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ก่อนหักรายการระหว่างกัน แบ่งสัดส่วนตาม 3 ธุรกิจหลัก ได้ดังนี้ (กลุ่ม 1) กำไรจากธุรกิจร้านสะดวกซื้อ มีสัดส่วนร้อยละ 57 (กลุ่ม 2) กำไรจากธุรกิจค้าส่งค้าปลีกและศูนย์การค้า มีสัดส่วนร้อยละ 31 และ (กลุ่ม 3) กำไรจากธุรกิจอื่นๆ ในประเทศไทย มีสัดส่วนร้อยละ 12

           ทั้งนี้ สัดส่วนกำไรของ (กลุ่ม1) เพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อน สาเหตุหลักจากอัตราการเติบโตของกำไรจากการดำเนินงานของธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่สูงกว่า บริษัทฯ มีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้จำนวน 35,893 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.7 จากปีก่อน

     

         

       

       และมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 25,346 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.1 จากปีก่อน เนื่องจากการดำเนินงานโดยรวมของทุกกลุ่มธุรกิจปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจร้านสะดวกซื้อ และธุรกิจโลตัสส์  นอกจากนี้บริษัทฯ ได้มีการบันทึกส่วนแบ่งกำไรของบริษัทร่วมและการร่วมค้าตามวิธีส่วนได้เสียจำนวน 673 ล้านบาท

      อีกทั้ง บริษัทฯ มีต้นทุนทางการเงินที่ลดลง เนื่องจากมีการชำระคืนเงินกู้ยืมระยะ สั้นจากสถาบันการเงิน และชำระคืนหุ้นกู้บางส่วนเป็นหลัก สำหรับกำไรต่อหุ้นตามงบการเงินรวมในปี 2567 มีจำนวนเท่ากับ 2.77 บาท

จากปีก่อน เนื่องจากการดำเนินงานโดยรวมของทุกกลุ่มธุรกิจปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจร้านสะดวกซื้อ และธุรกิจโลตัสส์  นอกจากนี้บริษัทฯ ได้มีการบันทึกส่วนแบ่งกำไรของบริษัทร่วมและการร่วมค้าตามวิธีส่วนได้เสียจำนวน 673 ล้านบาท

      อีกทั้ง บริษัทฯ มีต้นทุนทางการเงินที่ลดลง เนื่องจากมีการชำระคืนเงินกู้ยืมระยะ สั้นจากสถาบันการเงิน และชำระคืนหุ้นกู้บางส่วนเป็นหลัก สำหรับกำไรต่อหุ้นตามงบการเงินรวมในปี 2567 มีจำนวนเท่ากับ 2.77 บาท