ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (20 ก.พ.) ปิดตลาดลบ 16.66 จุด ดอลล์แข็ง-ทำกำไร

"ตลาดหุ้นไทย" วันนี้ (20 ก.พ.) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,245.61 จุด ลดลง 16.66 จุด หรือ 1.32% โบรกชี้ ตลาดหุ้นไทยร่วงตามตลาดเอเชีย จากดอลลาร์แข็งค่า พร้อมแรงเทขายทำกำไรกลุ่มแบงก์-พลังงาน นักวิเคราะห์แนะจับตาหุ้นปันผลสูง
"ตลาดหุ้นไทย"วันนี้ (20 ก.พ.) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,245.61 จุด ลดลง 16.66 จุด หรือ 1.32% โดยดัชนีฯ ผันผวนในทิศทางปรับตัวลงตลอดทั้งวัน ซึ่งทำจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,240.56 จุด จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,261.41 จุด และมีมูลค่าซื้อขาย 56,176.39 ล้านบาท
หุ้นไทยวันนี้ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่
- GULF ราคาปิด 51.25 บาท ลดลง 5.25 บาท หรือ -9.29% มูลค่าซื้อขาย 2,981.26 ล้านบาท
- KTB ราคาปิด 24.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ +1.67% มูลค่าซื้อขาย 2,930.23 ล้านบาท
- ADVANC ราคาปิด 283.00 บาท ลดลง 12.00 บาท หรือ -4.07% มูลค่าซื้อขาย 2,898.91 ล้านบาท
- DELTA ราคาปิด 77.25 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.64% มูลค่าซื้อขาย 2,844.11 ล้านบาท
- INTUCH ราคาปิด 82.50 บาท ลดลง 9.50 บาท หรือ -10.33% มูลค่าซื้อขาย 2,794.58 ล้านบาท
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน อธิบายว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงวันนี้มีสาเหตุหลักมาจาก:
1. ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลง เนื่องจากความกังวลเรื่องการขึ้นภาษีรอบใหม่ และรายงานการประชุมเฟดที่บ่งชี้ว่าการลดดอกเบี้ยอาจล่าช้าออกไป ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งกดดันหุ้นเอเชีย
2. มีแรงขายทำกำไรในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แม้จะมีปัจจัยบวกจากการประกาศจ่ายเงินปันผล แต่นักลงทุนได้คาดการณ์เรื่องนี้ไว้แล้ว
3. หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงแรง โดยเฉพาะ GULF และ INTUCH เนื่องจากปัจจัยบวกระยะสั้นจากเงินปันผลพิเศษถูกรับรู้ไปแล้ว และกำลังเข้าสู่ช่วงควบรวมกิจการซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
สำหรับ แนวโน้มตลาดวันพรุ่งนี้ (21 ก.พ.) ดัชนีน่าจะแกว่งตัวในกรอบ 1,647-1,690 จุด โดยปัญหาหลักคือความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุน แม้ว่าผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่จะเป็นไปตามคาดหรือดีกว่าคาด
คำแนะนำการลงทุน:
- ควรเน้นหุ้นที่มีผลตอบแทนที่จับต้องได้ เช่น หุ้นที่มีปันผลสูงกว่า 5-6%
- กลุ่มที่น่าสนใจได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ (แนะนำรอจังหวะซื้อเมื่ออ่อนตัวช่วงกลาง-ปลายมีนาคม)
- กลุ่มประกัน เช่น BLA และ TLI ที่มีแนวโน้มการเติบโตดี
- กลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ เช่น EGCO และ RATCH ที่ให้ปันผล 6%
ท้ายที่สุด นายกิจพณ ระบุว่า ปัญหาสำคัญของตลาดหุ้นไทยคือความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุน ที่ทำให้หลายคนไม่กล้าถือหุ้น และมักใช้จังหวะที่หุ้นปรับขึ้นในการขายทำกำไรหรือย้ายการลงทุนไปต่างประเทศแทน นอกจากนี้ ปัจจัยบวกเช่นการปรับเกณฑ์ LTF หรือการออกกองทุน Thai ESP ยังไม่เห็นผลชัดเจน







