FETCO ผนึก 7 องค์กรสมาชิก ถก รมว.คลัง 18 ก.พ.นี้ เล็งฟื้นกองทุน LTF

เฟทโก้ ผนึก 7 องค์กรสมาชิก ร่อนหนังสือเข้าหารือ รมว.คลัง 18 ก.พ.68 นี้ ฟื้นกองทุนแอลทีเอฟ - กองทุนไทยอีเอสจี 2 พร้อมหาแนวทางเรียกเสน่ห์หุ้นไทย
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า เฟทโก้ส่งหนังสือขอนัดหมายขอพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอนัดหมายจากทางเจ้าหน้าที่หน้าห้องรัฐมนตรี
พร้อมกันนี้ เฟทโก้ ได้นัดสมาชิกทั้ง 7 องค์กร ร่วมหารือผ่านระบบออนไลน์ในวันที่ 18 ก.พ.2568 นี้ เพื่อเตรียมเสนอวาระต่างๆ ให้กระทรวงการคลังพิจารณา อาทิ เรื่องขอต่ออายุกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF) เรื่องการฟื้นกองทุนทุนหุ้นระยะยาว(LTF) กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน 2 (Thai ESG 2) รวมถึงมาตรการที่จะช่วยปรับปรุงตลาดหุ้นไทยให้กลับมามีเสน่ห์อีกครั้ง
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับเรื่อง LTF ทางเฟทโก้พร้อมหารือกับกระทรวงการคลัง ถึงแนวทาง และการผลักดัน เบื้องต้น มองว่า มี 2-3 ทางเลือกที่ทำได้ อย่างแรก คือ การตั้งกองทุน Thai ESG 2 ขึ้นมา เน้นหุ้นไทยเป็นหลัก เฟทโก้สนับสนุนมองเป็นเรื่องที่ดี สำหรับแผนนี้สามารถดำเนินการได้เลย เนื่องจากอุตสาหกรรมมีกองทุน ESG อยู่แล้ว หากตั้งกองทุนนี้ขึ้นมาเพื่อให้เหมือน LTF จะต้องเน้นหุ้นไทยเป็นสำคัญ ตัวเงื่อนไขต้องเหมือน ETF (Exchange Traded Fund) และเน้น ESG เพราะนักลงทุนปัจจุบันให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้มากขึ้น ทั้งนี้ คงต้องปรึกษากับทางรัฐบาลดูอีกครั้ง
"ชื่อเรียกอย่าไปกังวลใจมาก เป็นว่าแนวคิดตรงกันกับทุกคน อยากให้เป็นหุ้นมากหน่อย และเป็น ESG ด้วย ด้วยกฎเกณฑ์ ESG มีอยู่แล้วสามารถเดินหน้าได้เลยเพียงแต่เพิ่มเกณฑ์ให้มีหุ้นไทยให้มากขึ้น กองทุนนี้สามารถรับ LTF กองเดิมได้เลย หากต้องการใช้สิทธิทางภาษี เรื่องนี้ต้องหารือกับคลัง ว่าจะมีรูปแบบไหน ประเด็นที่สำคัญ คือ อยากให้มีสิทธิทางภาษีได้หรือไม่ ถ้าใช้ได้ก็แปลงมายังกองนี้ได้เลย จะทำให้มีเงินเข้ามาด้วย ในใจอยากให้ทำกองใหม่ ขายเข้ากองพร้อมรับสิทธิทางภาษี ปกติกองทุนสลับกองได้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าได้รับสิทธิทางภาษีหรือไม่ "
นายกอบศักดิ์ กล่าวอีกว่า ถ้าอยากให้ตลาดหุ้นไทยเติบโตอย่างยั่งยืน สิ่งสำคัญที่สุดคือ การหาโปรดักต์ใหม่ โดยหาบริษัทที่มีศักยภาพใหม่ๆ เข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นไทยเพิ่ม อย่างตลาดหุ้นสหรัฐ ที่มีการเติบโตดี เพราะมีหุ้นใหม่อย่าง หุ้น 7 นางฟ้า รวมถึงหุ้นใหม่อื่นๆ ที่เข้ามาระดมมากขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐ มีมาร์เก็ตแคปใหม่หนุนดัชนี ขณะที่ตลาดหุ้นไทยย้อนดูเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา หุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปใหญ่ และมีอิทธิพลต่อตลาดยังคงเป็นหุ้นกลุ่มเดิม ทำให้มีอัปไซส์ไม่มาก โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงานอยู่ในช่วงขาลง ยิ่งกดดันตลาด เนื่องจากกลุ่มพลังงานลูกมีสัดส่วนถึง 30% ของตลาด ทำให้ดัชนีและมาร์เก็ตแคปยากที่จะเพิ่มขึ้นได้
การทำให้เกิดภาพใหม่ของตลาดหุ้นไทย ต้องมีมาตรการเพิ่มกลุ่มสตาร์ตอัปไทยแล้วทำให้เกิดอุตสาหกรรมแห่งอนาคต นำเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งมีหลายแบบในการสนับสนุนกลุ่มนี้ หรือให้สตาร์ตอัปต่างประเทศมาใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการเจาะตลาดเอเชีย โดยแก้กฎเกณฑ์ หากทำได้จะช่วยดึงดูดกลุ่มเหล่านี้เข้ามาลงทุนในไทย และชักชวนให้ระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยได้มากขึ้น หัวใจที่สำคัญที่สุด คือ ไทยต้องมีมาร์เก็ตแคปแบบใหม่ นอกจากนี้ ไทยควรขับเคลื่อนปัจจัยพื้นฐานของประเทศ โดยการสนับสนุนให้โครงการพื้นฐานขนาดใหญ่ให้ได้
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์