หุ้นไทยวันนี้ (4 ก.พ.) ปิดตลาดลบ 3.37 จุด หุ้นอิงต่างประเทศกดดัน

หุ้นไทยวันนี้ (4 ก.พ.) ปิดตลาดลบ 3.37 จุด หุ้นอิงต่างประเทศกดดัน

"ตลาดหุ้นไทย" วันนี้ (4 ก.พ.) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,301.02 จุด ลบ 3.37 จุด หรือ -0.26% โบรกชี้ หุ้นไทยปิดตลาดในแดนลบเนื่องจากนักลงทุนเริ่มขายทำกำไรจากหุ้นที่ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้า คาดพรุ่งนี้ไซด์เวย์ในกรอบ แนวรับที่ 1,294 จุด และมีแนวต้านที่ 1,310-1,320 จุด

"ตลาดหุ้นไทย" วันนี้ (4 ก.พ.) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,301.02 จุด ลบ 3.37 จุด หรือ 0.26% โดยดัชนีฯ ผันผวนในทิศทางปรับตัวขึ้นลงตลอดทั้งวันซึ่งทำจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,300.11 จุด จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,316.41 จุด และมีมูลค่าซื้อขาย 41,655.97 ล้านบาท

หุ้นไทยวันนี้ (4 ก.พ.) ปิดตลาดลบ 3.37 จุด หุ้นอิงต่างประเทศกดดัน ภาวะหุ้นไทยวันนี้ (4 ก.พ.)

หุ้นไทยวันนี้ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

1. CPALL ราคา 51.75 บาท เปลี่ยนแปลงลดลง 0.75 บาท หรือ -1.43% มูลค่า 4,847.22 ล้านบาท

2. DELTA ราคา 123.00 บาท เปลี่ยนแปลงลดลง 2.50 บาท หรือ -1.99% มูลค่า 2,497.33 ล้านบาท

3. KBANK ราคา 163.00 บาท เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ +2.52% มูลค่า 2,467.76 ล้านบาท

4. KTB ราคา 23.30 บาท เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ +1.75% มูลค่า 1,562.86 ล้านบาท

5. SCB ราคา 127.00 บาท เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.79% มูลค่า 1,395.79 ล้านบาท

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน กล่าวว่า "ตลาดหุ้นไทย"วันนี้ ปรับตัวลดลงในช่วงบ่าย 2-3 จุด หลังจากที่ปรับตัวขึ้นได้ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยการปรับตัวลงนี้เป็นผลมาจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน เนื่องจากตลาดปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างแรงในวันก่อนหน้า ประมาณ 30 จุดหรือกว่า 2% จากจุดต่ำสุดที่ 1,272 จุด

สำหรับระดับดัชนีในปัจจุบันที่อยู่แถว 1,300 จุด สะท้อน P/E ที่ 13-15 เท่า โดยที่ P/E 13 เท่าจะอยู่ที่ระดับ 1,250-1,280 จุด ดังนั้นการที่ดัชนีลงไปแตะ 1,272 จุดเมื่อวานนี้จึงสะท้อนระดับ P/E ดังกล่าวแล้ว และน่าจะเป็นจุดต่ำสุดของตลาด แม้ว่าความไม่แน่นอนของปัจจัยภายนอกอาจทำให้นักลงทุนยังต้องประเมินความเสี่ยงและปรับพอร์ตการลงทุน

สำหรับแนวโน้มดัชนีวันพรุ่งนี้ (5 ก.พ.) คาดว่าจะมีแนวรับที่ 1,294 จุด และมีแนวต้านที่ 1,310-1,320 จุด โดยระดับ 1,272 จุดน่าจะเป็นจุดต่ำสุดระยะสั้นไปแล้ว แต่อาจมีการย่อตัวลงบ้างหลังจากที่ปรับตัวขึ้นมาแรง

ในส่วนของการลงทุนนายกิจพณ กล่าวว่า หุ้นที่ฟื้นตัวได้ดีวันนี้ส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจในประเทศ เช่น กลุ่มธนาคาร เครื่องดื่ม ไฟฟ้า และท่องเที่ยว ในขณะที่หุ้นที่พึ่งพาเศรษฐกิจโลกอย่างกลุ่มปิโตรเคมีและอิเล็กทรอนิกส์ยังเคลื่อนไหวไม่ดีนัก เนื่องจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าโลกจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ

สำหรับกลุ่มท่องเที่ยวมีปัจจัยบวกจากการที่ปี 2568 ประเทศไทยจะมุ่งเน้นรายได้จากกีฬาและกิจกรรมระดับโลก ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงคาดว่าจะมีนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศในรูปแบบคล้าย "เราเที่ยวด้วยกัน" ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของคนไทย หลังจากที่ปีที่ผ่านมาการท่องเที่ยวในประเทศชะลอตัวเนื่องจากคนไทยนิยมเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น

หุ้นแนะนำได้แก่:

- กลุ่มท่องเที่ยว: AOT, ERW

- กลุ่มค้าปลีก: CPALL

- กลุ่มไฟแนนซ์: MTC

- กลุ่มโรงไฟฟ้าที่มีปันผลสูง: EGCO, RATCH