ดาวโจนส์ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุด หลังทรัมป์หยุดเก็บภาษีเม็กซิโก แคนาดา

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เมื่อวันจันทร์ ติดลบน้อยลง ฟื้นตัวจากที่ร่วงลงอย่างหนักในช่วงเช้าของการซื้อขาย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า จะระงับการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกเป็นเวลา 1 เดือน
ซีเอ็นบีซี รายงานภาวะหุ้นสหรัฐ วันจันทร์(3 ก.พ.68) ว่า ดัชนี Dow Jones Industrial Average ของหุ้น 30 ตัวปิดตลาดวันนี้ที่ 44,421.91 จุด ลดลง 122.75 จุด หรือ 0.28% ฟื้นขึ้นจากจุดต่ำสุดของวันที่ 665.6 จุด หรือ 1.5% ด้านดัชนี S&P 500 ลดลง 0.76% สู่ระดับ 5,994.57 จุด และดัชนี Nasdaq Composite ยังร่วงลงแรง 1.2% สู่ระดับ 19,391.96 จุด
กองทุน ETF ของ iShares MSCI Mexico (EWW) ซึ่งติดตามหุ้นของเม็กซิโก ฟื้นตัวขึ้นและปิดตลาดสูงขึ้นกว่า 2%
หุ้นร่วงลงในช่วงเช้าวันจันทร์ หลังจากทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดา และเม็กซิโก 25% เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ สหรัฐยังขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 10% ข่าวนี้ทำให้เกิดการเทขายหุ้นทั่วโลก โดยหุ้นในสหรัฐ และต่างประเทศร่วงลงอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม โพสต์ของประธานาธิบดีคลอเดีย ไชน์บาว์ม แห่งเม็กซิโกภายหลังการสนทนากับทรัมป์ ดูเหมือนจะทำให้บรรดานักลงทุนสงบลง
“เราได้พูดคุยกันอย่างดีกับประธานาธิบดีทรัมป์ โดยให้ความเคารพอย่างยิ่งต่อความสัมพันธ์และอำนาจอธิปไตยของเรา ได้บรรลุข้อตกลงหลายฉบับ” ไชน์บาว์ม เขียนในโพสต์ดังกล่าว
ต่อมา ทรัมป์ก็ได้ยืนยันข้อตกลงชั่วคราวบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Truth Social ของเขาว่า “เป็นการสนทนาที่เป็นมิตรมาก โดยเธอตกลงที่จะส่งทหารเม็กซิกัน 10,000 นายไปที่ชายแดนที่กั้นระหว่างเม็กซิโก และสหรัฐทันที” ทรัมป์ กล่าว พร้อมเสริมว่าการเจรจาข้อตกลงที่ถาวรกว่านี้จะยังคงดำเนินต่อไปเป็นเวลาหนึ่งเดือน
การหยุดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกทำให้นักลงทุนบางส่วนมองว่าภาษีนำเข้าสำหรับทุกประเทศอาจเป็นเครื่องมือในการเจรจาของทรัมป์ และนักลงทุนไม่ควรมีปฏิกิริยาตอบสนองเกินเหตุ
เธียร์รี วิซแมน นักกลยุทธ์อัตราแลกเปลี่ยนจากกลุ่มการเงินแมคควอรี กล่าวว่า “เราอาจจะคิดไปเอง แต่เรายังคงคิดว่าการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากพันธมิตรของสหรัฐ (แคนาดา และเม็กซิโก) อย่างถาวรจะไม่เกิดขึ้น” “นั่นเป็นเพราะการประนีประนอมเป็นวิธีการที่ง่ายกว่าในการจัดการกับปัญหาของทรัมป์ (จากมุมมองของต้นทุน-ผลประโยชน์ และทฤษฎีเกม) และทรัมป์ชอบที่จะ "ทำข้อตกลง" แรงกดดันทางการเมือง และตลาดจะกดดันให้คู่กรณีประนีประนอมเช่นกัน เช่นเดียวกับในปี 2018”
ทรัมป์หยุดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาเป็นเวลา 30 วัน หลังจากทำแบบเดียวกันกับเม็กซิโก
ด้านจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา กล่าวในเวลาถัดมาว่า
ประธานาธิบดี ทรัมป์ ตกลงที่จะระงับการบังคับใช้มาตรการภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาที่สหรัฐวางแผนไว้เป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน
ทรูโดประกาศการระงับดังกล่าวในทวิตเตอร์เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ทรัมป์ และประธานาธิบดีเม็กซิโก กล่าวว่า ทรัมป์จะระงับการบังคับใช้มาตรการภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกเป็นเวลา 1 เดือน
ในทั้งสองกรณี การระงับดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ทั้งสองประเทศตกลงที่จะดำเนินการเพื่อป้องกันการค้าเฟนทานิลซึ่งเป็นสารโอปิออยด์ที่อันตรายถึงชีวิตเข้าสู่สหรัฐ
เมื่อวันเสาร์ ทรูโดเตือนว่าประเทศของเขาจะเรียกเก็บภาษี 25% กับสินค้าสหรัฐมูลค่า 155,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อเป็นการตอบโต้มาตรการภาษีของทรัมป์
อย่างไรก็ตาม ในทวีตข้อความเมื่อวันจันทร์ ทรูโดเขียนว่า “ผมเพิ่งได้คุยกับประธานาธิบดีทรัมป์ไปได้ด้วยดี”
ทรูโดกล่าวว่า แคนาดาได้ให้คำมั่นใหม่ “ในการแต่งตั้งผู้ควบคุมเฟนทานิล”
เฟนทานิล เป็นสารสังเคราะห์ขึ้นเพื่อระงับอาการปวดรุนแรง และถูกขึ้นบัญชีให้เป็นยาเสพติด
“แคนาดากำลังดำเนินการตามแผนชายแดนมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ของเรา โดยเสริมกำลังชายแดนด้วยเฮลิคอปเตอร์ เทคโนโลยี และบุคลากรใหม่ ประสานงานกับพันธมิตรในอเมริกามากขึ้น และเพิ่มทรัพยากรเพื่อหยุดการไหลเวียนของเฟนทานิล” นายกรัฐมนตรีเขียน “บุคลากรแนวหน้าเกือบ 10,000 คนกำลังทำงานเพื่อปกป้องชายแดน”
“ภาษีศุลกากรที่เสนอจะถูกระงับเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วันในขณะที่เราทำงานร่วมกัน” ทรูโดเขียน
ทรัมป์โพสต์ลงบนTruth Social เมื่อวันจันทร์ ระบุว่า “แคนาดาตกลงที่จะรับประกันว่าเรามีพรมแดนทางเหนือที่ปลอดภัย และในที่สุดก็จะยุติภัยร้ายแรงอย่างยาเสพย์ติดอย่างเฟนทานิลที่ไหลเข้ามาในประเทศของเรา คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปหลายแสนคน ขณะเดียวกันก็ทำลายครอบครัว และชุมชนของพวกเขาทั่วประเทศ”
“ผมพอใจมากกับผลลัพธ์เบื้องต้นนี้ และภาษีศุลกากรที่ประกาศเมื่อวันเสาร์จะถูกระงับเป็นเวลา 30 วัน เพื่อดูว่าสามารถจัดทำข้อตกลงทางเศรษฐกิจขั้นสุดท้ายกับแคนาดาได้หรือไม่” ทรัมป์เขียน “ความยุติธรรมสำหรับทุกคน!”
ตลาดหุ้นซื้อขายล่วงหน้าดีดขึ้นหลังข่าวระงับภาษี
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ฟิวเจอร์ซื้อขายสูงขึ้น 189 จุด หรือ 0.4% สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S&P 500 ฟิวเจอร์ เพิ่มขึ้น 0.6% ในขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้า Nasdaq 100 เพิ่มขึ้น 0.8%
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์