‘เวียดนาม’ หวังยกระดับสู่ 'ตลาดหุ้นเกิดใหม่' ดึงเงินทุนไหลเข้า 6 พันล้านดอลลาร์

'เวียดนาม’ หวัง FTSE Russell พิจารณายกระดับตลาดหุ้นสู่ 'ตลาดเกิดใหม่' ดึงเงินทุนไหลเข้า 6 พันล้านดอลลาร์ แต่ต้องผ่าน 9 เกณฑ์สำคัญ คาดรู้ผลอัปเกรด ก.ย.68 นี้
สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานว่าเจ้าหน้าที่และนักลงทุนใน “ตลาดหุ้นเวียดนาม” ต่างจับตามองการพิจารณาของ FTSE Russell ที่จะยกระดับตลาดหุ้นเวียดนามเป็น “ตลาดเกิดใหม่” ในปีนี้ ซึ่งอาจดึงเงินทุนมูลค่ากว่า 6 พันล้านดอลลาร์ไหลเข้าประเทศผ่านกองทุน
โท ตรัน ฮวา รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาตลาดของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์แห่งรัฐของรัฐบาลเวียดนาม ตั้งคำถามสำคัญที่เวียดนามกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้คือ ประเทศจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตและก้าวขึ้นเป็นตลาดเกิดใหม่ได้หรือไม่
แม้เวียดนามจะประสบความสำเร็จในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาตั้งโรงงานผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเสื้อผ้า ทำให้ประเทศกลายเป็นฐานการผลิตที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ขนาดของตลาดหุ้นเวียดนามเมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจโดยรวมยังถือว่าค่อนข้างเล็ก เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค
ทั้งนี้ เพื่อให้ได้รับการจัดอันดับตลาดหุ้นใหม่จาก FTSE ประเทศต้องผ่านเกณฑ์ทั้งหมด 9 ข้อ จาก 22 ข้อ ซึ่งเวียดนามได้ผ่านเกณฑ์ไปแล้ว 7 ข้อ
หนึ่งในอุปสรรคสำคัญที่เวียดนามต้องก้าวข้ามเพื่อบรรลุเป้าหมายในการเป็นตลาดเกิดใหม่ คือการยกเลิกนโยบายให้ชาวต่างชาติชำระเงินล่วงหน้าในการทำธุรกรรม ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่เวียดนามได้ดำเนินการไปแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ในการประเมินประจำปีล่าสุดเมื่อเดือนก.ย.67ที่ผ่านมา เวียดนามยังไม่ได้รับการยกระดับสถานะ และยังคงอยู่ในรายชื่อประเทศที่ FTSE Russell กำลังจับตาอย่างใกล้ชิดมาตั้งแต่ปี 2561
บริษัทหลักทรัพย์เวียดแคปคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นเวียดนามอาจได้รับการอัปเกรดเป็นตลาดเกิดใหม่ในเดือนก.ย.68 นี้
แม้ว่าปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติสามารถซื้อหุ้นในเวียดนามได้โดยไม่ต้องชำระเงินล่วงหน้าแล้ว แต่ FTSE Russell ยังคงให้ความสำคัญกับความสามารถของบริษัทหลักทรัพย์ในการจัดการกับการซื้อขายที่ล้มเหลว เพื่อประเมินว่าบริษัทหลักทรัพย์ในเวียดนามมีความพร้อมเพียงพอในการชำระเงินแทนนักลงทุนในกรณีที่เกิดปัญหาการชำระเงินหรือไม่ หากนักลงทุนขาดสภาพคล่องในการชำระเงินค่าหุ้น






