S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดใหม่ ดาวโจนส์พุ่ง 400 จุด หลังทรัมป์ผลักดันลดอัตราดอกเบี้ย ราคาน้ำมัน

ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดี หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกมาเรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ยลงทันทีและลดราคาน้ำมันดิบลง แม้ทรัมป์จะไม่อำนาจในการควบคุมอัตราดอกเบี้ยก็ตาม การดำเนินนโยบายการเงินอยู่ภายใต้อำนาจของธนาคารกลางสหรัฐซึ่งมีอิสระจากฝ่ายการเมือง
ซีเอ็นบีซี รายงานภาวะตลาดหุ้นสหรัฐวันพฤหัสบดี (23 ม.ค.) ว่า ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.53% ทำสถิติสูงสุดในรอบวันเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน โดยดัชนีปิดวันนี้ที่ 6,118.71 จุด แซงหน้าระดับสูงสุดตลอดกาลก่อนหน้านี้ที่ 6,090.27 จุดเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average เพิ่มขึ้น 408.34 จุด หรือ 0.92% ปิดตลาดที่ 44,565.07 จุด ขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.22% แตะที่ 20,053.68 จุด ถือเป็นการปรับขึ้นของดัชนีสำคัญทั้งสามติดต่อกันเป็นวันที่ 4
ดัชนีปรับตัวขึ้นหลังจากทรัมป์กล่าวในการประชุม World Economic Forum ผ่านทางออนไลน์เมื่อวันพฤหัสบดีว่าเขาจะ “เรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ยทันที” นอกจากนี้ ประธานาธิบดียังกล่าวอีกว่าเขาจะขอให้ซาอุดีอาระเบียลดราคาน้ำมันลง ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบลดลง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นลดลงหลังจากคำกล่าวของทรัมป์
ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้จากความตื่นเต้นเกี่ยวกับการลดภาษีและการยกเลิกกฎระเบียบที่อาจเกิดขึ้นภายใต้การนำของทรัมป์ รวมถึงสัญญาณของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง แม้ว่า แผนการขึ้นภาษีศุลกากรจะยังคงเป็นอุปสรรคต่อตลาดหุ้น แต่นักลงทุนก็พอใจกับการที่ไม่มีการดำเนินการอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีเหล่านี้ในช่วงวันแรกๆ ที่ทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งในทำเนียบขาว
ทรัมป์ไม่มีอำนาจลดดอกเบี้ย
“เขาไม่สามารถควบคุมอัตราดอกเบี้ยได้จริงๆ แต่ตลาดชอบที่จะได้ยินเรื่องแบบนั้น” แลร์รี เทนทาเรลลี หัวหน้านักกลยุทธ์ทางเทคนิคของบริษัทวิจัยตลาดการเงิน Blue Chip Daily Trend Report กล่าว “จนถึงตอนนี้ ตลาดดูเหมือนจะชอบนโยบายของทรัมป์ ดังนั้น เราคงต้องรอดูว่าจะมีการดำเนินการตามนั้นหรือไม่”
ขณะที่ ฤดูกาลรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 เริ่มต้นได้อย่างแข็งแกร่ง โดย Netflix และบรรดาธนาคารขนาดใหญ่ ต่างรายงานผลประกอบการในเชิงบวก แต่ American Airlines รั้งความคึกคักของตลาดไว้บางส่วน โดยราคาหุ้นร่วงลงมากกว่า 8% ในวันพฤหัสบดี หลังจากบริษัทออกมาเตือนแนวโน้มขาดทุนต่อหุ้นในไตรมาสแรกของปีนี้มากกว่าที่ตลาดคาด จากแนวโน้มยอดขายตั๋ว ราคาน้ำมัน และรายจ่ายที่จะเพิ่มขึ้น