ตลาดหุ้นเวียดนามปีนี้เติบโตกว่า 20% จับตาเปิดประตูสู่ Emerging Market

บลจ. พรินซิเพิล เผยกำไรตลาดหุ้นเวียดนามปีนี้เติบโตกว่า 20% จับตาเปิดประตูสู่ Emerging Market" ขณะที่ ‘พรินซิเพิล เวียดนาม’ โชว์ผลตอบแทนอันดับหนึ่ง 2 ปีต่อเนื่อง ปี 68 ที่ 18.22%
นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ คาดการณ์กำไรต่อหุ้นของตลาดหุ้นเวียดนามในปีนี้จะเติบโตกว่า 20% ส่วนดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 1,375 จุด หรือมีอัพไซด์ประมาณ 10% (ข้อมูลจาก Bloomberg และ บลจ. พรินซิเพิล ณ 21 ม.ค. 2025) โดยคาดว่าจะเห็นการเพิ่มขึ้นของดัชนีอย่างชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปีนี้ เนื่องจากตลาดมีแนวโน้มที่จะรับรู้ข่าวเชิงลบจากนโยบายช่วง 100 วันแรกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในยุค 2.0 ไปทั้งหมดแล้ว และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยประกาศมีแนวโน้มแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ ภาพรวมเศรษฐกิจของเวียดนามยังคงมีแนวโน้มที่ดีจากการเติบโตของภาคการบริโภคและส่งออก รวมถึงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดย GDP เวียดนามปี 2024 เติบโตถึง 7% สูงกว่ารัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้ที่ 6-6.5% ขณะที่ปี 2025 รัฐบาลตั้งเป้าหมาย GDP เติบโต 6.5-7% และเติบโตต่อเนื่องในระดับดังกล่าวไปจนถึงปี 2030 โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นหัวใจสำคัญและผลักดันการเติบโตของสังคมเมือง
ส่วนผลกระทบจากการขึ้นภาษีสินค้าที่นำเข้าไปยังสหรัฐฯ คาดว่าเวียดนามจะได้รับผลกระทบอย่างจำกัด แม้ตลาดสหรัฐฯ มีสัดส่วนส่งออกกว่า 30% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของเวียดนาม และเป็นประเทศที่งบประมาณกับสหรัฐฯ เกินดุลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสินค้าหลักที่ส่งออกส่วนใหญ่ ได้แก่ ชิ้นส่วนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นหนึ่งในซัพพลายเชนที่สำคัญของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม บลจ. พรินซิเพิล คาดว่าเวียดนามมีโอกาสจะเติบโตในภาคการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากจะได้รับประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตจากจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่เกินดุลการค้าสหรัฐฯ จำนวนมาก
ทั้งนี้ ภายใต้การลงทุนหุ้นเวียดนามของ บลจ.พรินซิเพิล คาดว่าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการจับจ่ายใช้สอยมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในปีนี้ เช่น กลุ่มการบริโภค ภาคบริการ กลุ่มธนาคาร เป็นต้น โดยคาดการณ์กำไรมีโอกาสเติบโต 38% และ 27% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม การลงทุนหุ้นกลุ่มการบริโภคจะต้องคัดเลือกในเชิงลึกเพื่อสร้างผลตอบแทนได้ตามที่ตลาดคาด
ขณะที่ ตลาดหุ้นเวียดนามได้รับการคาดหมายว่าจะถูกอัปเกรดจากตลาด Frontier Market (ตลาดชายขอบ) เข้าสู่ตลาด Emerging Market (ตลาดกำลังพัฒนา) ซึ่งจะทำให้มีเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นเวียดนามเพิ่มขึ้นและดัชนี VN Index มีโอกาสเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1,400 จุดได้ หลังจากได้พัฒนาระบบซื้อขายหลักทรัพย์เป็นสากลมากขึ้น โดยเปลี่ยนมาใช้ระบบซื้อขาย KRX แบบเดียวกับประเทศเกาหลีใต้ และได้รับการอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต.ของเวียดนามให้ซื้อขายหุ้นโดยไม่มี Pre-funding (ชำระเงินล่วงหน้า) ตามเกณฑ์พิจารณาของ FTSE รวมถึงการดูแลเสถียรภาพของค่าเงินดองเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน
“ความตั้งใจในการทำงานอย่างหนักของทีมผู้จัดการลงทุน ประกอบกับความเข้าใจในตลาดหุ้นเวียดนามและเศรษฐกิจเวียดนามตลอด 10 ปี จากการศึกษาการลงทุนในเวียดนามล่วงหน้าก่อนการเปิดขายและเป็น “กองทุนหุ้นเวียดนาม” ที่แรกในปี 2017 ทำให้เรามีประสบการณ์และเป็นผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม จนส่งผลให้เราสามารถสร้างผลตอบแทนอันดับหนึ่ง ต่อเนื่อง 2 ปี และ บลจ.พรินซิเพิล เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างและส่งมอบผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนในปีนี้เช่นกัน”
สำหรับ กองทุนเปิดพรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้ หรือ Principal Vietnam Equity (PRINCIPAL VNEQ) เป็นหนึ่งในกองทุนเรือธง (Flagship Fund) ของ บลจ. พรินซิเพิล ที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่น อันดับหนึ่ง ต่อเนื่อง 2 ปีในกลุ่มกองทุนหุ้นเวียดนามในประเทศไทย ประเภทนักลงทุนทั่วไป และได้รับการจัดอันดับ Morningstar ระดับ 5 ดาวอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2024 ให้อัตราผลตอบแทน 18.22% และปี 2023 กองทุนฯ ให้อัตราผลตอบแทน 14.35%