หุ้นไทยเปิดร่วง 3.40 จุด ลงตามตลาดภูมิภาค จับตาจีนรายงายตัวเลขศก. วันนี้

หุ้นไทยวันนี้ 17 ม.ค.68 เปิดตลาดภาคเช้า อยู่ที่ 1,349.16 จุด ลดลง 3.40 จุด หรือ 0.25% โบรกเกอร์ เผยเกาะติดการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจจีนวันนี้ ทั้ง GDP, ยอดค้าปลีก และภาคการผลิต อาจส่งผลให้เอเชียผันผวน ขณะที่ทรัมป์เข้าสาบานตนรับตำแหน่ง ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญ ดังนั้นอาจเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนระยะสั้นมากยิ่งขึ้น โดยสำหรับวันนี้แนะนำสะสม KTB กรอบ 1350-1370 จุด
ความเคลื่อนไหวตลาด"หุ้นไทย"ภาคเช้า ณ วันที่ 17 ม.ค.68 อยู่ที่ 1,349.16 จุด ลดลง 3.40 จุด หรือ 0.25% มูลค่าการซื้อขาย ทั้งสิ้น 3,714.80 ล้านบาท
วิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า SET ยังอ่อนแอกว่าตลาดภูมิภาค มีความผันผวนมากในหุ้น Mid-Small Caps ท่ามกลางความเชื่อมั่นต่อการลงทุนที่ยังหดตัว อีกทั้งยังมีปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า คือ ทรัมป์จะเข้าสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 20 ม.ค. ซึ่งเป็นประเด็นที่อาจส่งผลให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงผันผวนมากขึ้นได้ ดังนั้นอาจต้องระมัดระวังมากขึ้น โดยกลยุทธ์ยังเน้นหุ้นกำไรดี และมีปันผลเด่น กรอบ 1350-1370 จุด
ขณะที่วันนี้เกาะติดการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของจีน นำโดย ไตรมาส 4/67 GDP คาดที่ +5.0%y-y เร่งขึ้นจาก +4.6%y-y ในไตรมาส 6/67 ขณะที่ยอดค้าปลีก เดือนธันวาคม คาดที่ +3.6%y-y เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ +3.0%y-y แลผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือนธันวาคม คาดทรงตัวที่ระดับ +5.4%y-y โดยตัวเลขเหล่านี้จะสะท้อนถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งจะมีผลต่อการแกว่งตัวของตลาดหุ้นเอเชียในเช้านี้
ส่วนเมื่อคืนนี้ สหรัฐฯรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าสนใจหลายตัวในำโดย ยอดค้าปลีก US เดือนธันวาคม ขยายตัว +0.4%m-m ลดลงจากเดือนพฤศจิกายนที่ +0.8%m-m และต่ำกว่าคาดที่ +0.6%m-m บ่งชี้การขยายตัวในการจับจ่ายใช้สอยที่ต่ำคาด ในขณะที่ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์พุ่งขึ้นสู่ระดับ 2.17 แสนราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.03 แสนราย ซึ่งสูงกว่าคาดที่ 2.1 แสนราย สะท้อนถึงภาคแรงงานที่ร้อนแรงน้อยกว่าคาดเช่นกัน
สำหรับวันนี้แนะนำสะสมหุ้น KTB ตลาดคาดกำไรไตรมาส 4/67 ที่ระดับ 1.04 หมื่นล้านบาท +70%y-y และ -6%q-q โดยภาพ y-y หนุนจากฐานที่ต่ำในไตรมาส 4/66 เนื่องจากมีการตั้งสำรองลูกหนี้รายใหญ่ที่สูง ขณะที่ภาพ q-q คาดชะลอเล็กน้อยตามฤดูกาล ที่ค่าใช้จ่ายจะขยับขึ้น q-q ส่วนด้านสินเชื่อคาดยังเติบโต และคุณภาพสินทรัพย์ทรงตัวดี
โดยปีนี้ คาดเติบโตราว 10% จากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อรัฐฯ การเร่งเบิกจ่าย และปัจจุบันเทรดบริเวณ PBV 0.66 เท่า และคาดหวังปันผลอยู่ในระดับน่าสนใจที่ราว 5% ต่อปี ราคาเป้าหมาย 24 บาท