ปี 68 คาดนักท่องเที่ยวแตะ 40 ล้านคน หุ้น AWC-MINT รับอานิสงส์ กำไรเติบโต

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ คาดปี 2568 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 40 ล้านคนใน ฟื้นตัวเท่า 100% หลังรัฐหนุนท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องจากปี 67 หุ้นเด่น AWC-MINT จากแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งในปี 68
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ เปิดเผยว่า ในปี 2567 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 35 ล้านคนสามารถทำได้ ข้อมูลสัปดาห์ที่ 51 (วันที่ 16 – 22 ธันวาคม 2567) มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 886,472 คน เพิ่มขึ้น 15% WoW และเป็นสัปดาห์สูงสุดของปี และในระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 22 ธันวาคม 2567 ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 34.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 27% YoY สู่ราว 89% ของระดับก่อนเกิดโควิด-19 ปัจจัยสำคัญคือตลาดนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ ไม่รวมประเทศจีน ที่ 27.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 17% YoY สู่ ราว 100% ของระดับก่อนเกิดโควิด-19
ในขณะที่ตลาดจีนที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา 6.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 94% YoY สู่ราว 61% ของระดับก่อนเกิดโควิด-19 แม้ว่าตลาดจีนจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากความต้องการที่สะสม (pent-up demand) และมาตราการยกเว้นวีซ่า การฟื้นตัวถือว่าช้ากว่าที่เราคาดการณ์ไว้ที่ 8 ล้านคนในปี 2567 เนื่องจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2567 จะสรุปที่ราว 35.3 ล้านคน ซึ่งจะเป็นไปตามที่เราคาดที่ 35 ล้านคนจากตลาดนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ ไม่รวมประเทศจีน ที่แข็งแกร่ง
คงการคาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคนในปี 2568 เราคงการคาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติที่40 ล้านคนในปี 2568 ซึ่งจะฟื้นตัวเท่า 100% ของระดับก่อนโควิด-19 แต่ปรับส่วนประกอบเพื่อสะท้อนตัวเลขจริงของปี 2567 โดยเราคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจากชาติอื่นๆ ไม่รวมประเทศจีน จะอยู่ที่ 32 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11% YoY และจะคิดเป็น 110% ของระดับก่อนโควิด-19 และเราคาดจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ 8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20% YoY และจะคิดเป็น 73% ของระดับก่อนโควิด-19 รัฐบาลไทยยังคงมุ่งเน้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องจากปี 2567 (ที่หลักๆ คือมาตรการยกเว้นวีซ่า) เช่น การร่วมมือกับรัฐบาลและสายการบินของประเทศเป้าหมายเพื่อเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินและแคมเปญการตลาดเฉพาะประเทศ
อัพเดตสถิติการดำเนินงานในช่วง 4Q67TD ข้อมูลการดำเนินงานของโรงแรมที่มี RevPar เติบโต QoQ สะท้อนว่าไตรมาสสี่เป็นไฮซีซั่นสำหรับ AWC, CENTEL และ ERW ขณะที่ MINT เป็นข้อยกเว้น เนื่องจากการดำเนินงานส่วนใหญ่มาจากโรงแรมในยุโรปซึ่ง RevPar จะลดลง QoQ ในช่วงโลว์ซีซั่นของทางฝั่งยุโรป อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่าผลประกอบการใน 4Q67 จะมีปัจจัยเฉพาะตัวของบริษัทที่ต้องพิจารณาด้วย โดยเฉพาะสำหรับ CENTEL ซึ่งกำไรสุทธิใน 4Q67 น่าจะถูกกดดันจากค่าใช้จ่ายก่อนการดำเนินงานสำหรับโรงแรมใหม่แห่งที่สามและสี่ในมัลดีฟส์
AWC และ MINT เป็นหุ้นเด่นของเรา ในปี 2568 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่แนวโน้มกำไรของผู้ประกอบการโรงแรมจะแตกต่างกันจากปัจจัยเฉพาะตัว เราคาดว่า AWC จะรายงานกำไรปกติปี 2568 เติบโตแข็งแกร่งที่สุดที่ 23% YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจโรงแรมที่มีการขยายการลงทุนที่ผ่านมา ในขณะที่เราคาดว่ากำไรปกติของ MINT จะเติบโต 8% YoY ในปี 2568 เรามองว่าปี 2568 จะเป็นปีที่ไม่น่าตื่นเต้นสำหรับ ERW เนื่องจากการดำเนินงานจะได้รับผลกระทบในระยะสั้นจากการปรับปรุงโรงแรม Grand Hyatt Erawan และ CENTEL ภาระต้นทุนเริ่มแรกที่โรงแรมใหม่ 2 แห่งในมัลดีฟส์
ปัจจัยเสี่ยง ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและความต้องการเดินทาง การขาดแคลนแรงงาน และต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไร ปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG คือ การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก พลังงาน น้ำเสีย และขยะ ที่มีประสิทธิภาพ