ดาวโจนส์ร่วงกว่า 200 จุด S&P 500 หล่นจากสถิติ หุ้น Nvidia ฉุดตลาด
ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq Composite ร่วงลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยหุ้นเทคโนโลยีปรับตัวลดลง นักลงทุนกำลังจับตาดูข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐสัปดาห์นี้
ซีเอ็นบีซีรายงานว่า ในวันจันทร์ (9 ธ.ค.) ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.61% ปิดที่ 6,052.85 จุด, ดัชนี Nasdaq ซึ่งเน้นหุ้นเทคโนโลยีร่วงลง 0.62% ปิดที่ 19,736.69 จุด และดัชนี Dow Jones Industrial Average ลดลง 240.59 จุด หรือ 0.54% ปิดที่ 44,401.93 จุด
ราคาหุ้น Nvidia ร่วงลงประมาณ 2.6% หลังจากที่หน่วยงาน กำกับดูแลของจีนประกาศว่ากำลังสอบสวนผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์เนื่องจากอาจละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด Nvidia เป็นหุ้นยอดนิยมของนักลงทุน หุ้นดังกล่าวเป็นตัวบ่งชี้ ทิศทางของการซื้อขายหุ้นปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยทะยานขึ้น มากกว่า 180% ในปี 2024 นี้
ด้านหุ้น Advanced Micro Devices ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปอีกรายหนึ่ง ปิดตลาดลดลงแรง 5.6% หลัง จากที่ธนาคาร Bank of America ปรับลดระดับความน่า
ลงทุนจากแนะนำให้ซื้อสู่ระดับเป็นกลาง โดยธนาคารระบุว่า ศักยภาพในการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดมีจำกัดเนื่องมาจาก “ความเสี่ยงด้านการแข่งขันที่สูงขึ้นในธุรกิจชิป AI เมื่อเทียบ กับการครองตลาดของ Nvidia” ขณะที่ยักษ์ใหญ่ด้าน เทคโนโลยีอย่างบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก Meta Platforms และ Netflix ก็ราคาร่วงลงเช่นกัน
ราคาบิตคอยน์ ก็ลดลงตาม ซึ่งเป็นสัญญาณว่านักลงทุน เริ่มหันเหออกจากการเสี่ยง โดยสกุลเงินดิจิทัลนี้พุ่งทะลุ 100,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกเมื่อเย็นวันพุธของสัปดาห์ที่แล้ว
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์ (6 ธ.ค.) โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 1% และ 3.3% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตามลำดับ โดยดัชนี Dow เป็นตัวเดียวที่ล้าหลัง โดย ปิดตลาดในรอบสัปดาห์ลดลง 0.6%
“โดยทั่วไปแล้ว ตลาดยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นเนื่องจากฤดูกาลที่เอื้ออำนวย และอื่นๆ” แซม สโตวอลล์ หัวหน้านัก กลยุทธ์การลงทุนของบริษัทวิจัยข้อมูลการเงิน CFRA Research กล่าวกับซีเอ็นบีซี เขากล่าวเสริมว่าข่าวเช่น เจ้า หน้าที่จีนทำการสอบสวน Nvidia จะ “สร้างอุปสรรคบาง อย่างระหว่างทาง แต่ผมไม่คิดว่า จะทำให้ตลาดหุ้นที่เพิ่มขึ้น พลิกกลับมาลดลง จนถึงสิ้นปี”
“มันจะยังคงปีนกำแพงแห่งความกังวลในปีนี้ และจะแซงหน้า การเพิ่มขึ้นที่เราเห็นในปีที่แล้วในที่สุด” นักกลยุทธ์กล่าวต่อ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะประกาศในวันพุธ คาดว่าจะมีแรงกดดันด้านราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย นัก เศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดยบริษัทสื่อดาวโจนส์ (Dow Jones) คาดว่าดัชนีราคาจะเพิ่มขึ้น 0.3% และ 2.7% ตามลำดับเมื่อ เทียบรายเดือนและรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 0.2% และ 2.6% ตามลำดับเมื่อเดือนก่อน