NEX เพิ่มทุน 5 เท่าตัว 8.8 พันล้านบาท ขาย PP หุ้นละ 2.55 บาทให้พันธมิตร

NEX เพิ่มทุน 5 เท่าตัว 8.8 พันล้านบาท ขาย PP หุ้นละ 2.55 บาทให้พันธมิตร

บอร์ดมติ "เน็กซ์ พอยท์" เพิ่มทุนจดจากเดิม 2.02 พันล้านบาท เป็น 1.08 หมื่นล้านบาท โดยออกเพิ่มทุน 8.8 พันล้านหุ้น แบ่งเป็น 1.บุคคลเฉพาะเจาะจง 2.รองรับวอแรนต์ และ 3.ขายผู้ถือหุ้นเดิมที่มิใช่ PPO แย้มอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรร่วมธุรกิจ เผยยังต้องรอผถห.อนุมัติก่อน

นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน การออกและเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) การออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Warrant for Private Placement) การออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering)
 

ด้วยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 4/2567 เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2567 เวลา 14.00 น. ได้มีมติในวาระสำคัญ ดังนี้
 

1. มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 พิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 8,837,309,596 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 2,021,827,399 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 10,859,136,995 บาท

โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 8,837,309,596 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท แบบกำหนดวัตถุประสงค์ เพื่อรองรับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้กับ

(1) เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน

(2) เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่จัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Warrant for Private Placement)

(3) เพื่อรองรับการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นโดยไม่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทฯ มีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ (Preferential Public Offering : PPO) ดังกล่าว

คณะกรรมการบริษัทมีมติใช้ดุลยพินิจพิจารณาไม่เสนอขายหรือไม่จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวให้แก่บุคคลใดหรือผู้จองซื้อรายใด ซึ่งอาจรวมถึงผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทในประเทศสหรัฐอเมริกา และ ประเทศอื่นใดตามที่บริษัทฯ พิจารณาเห็นสมควร ซึ่งบริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบต่อไป (หากมี)

2. มีมติอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทฯ ข้อ 4. เรื่องทุนจดทะเบียน เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท ในการนี้ คณะกรรมการบริษัทเห็นสมควรเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติมอบอำนาจให้ คณะกรรมการบริษัท และ/หรือ คณะกรรมการบริหาร และ/หรือ ประธาน
เจ้าหน้าที่บริหาร และ/หรือ บุคคลอื่นใดซึ่งได้รับ การแต่งตั้งจากคณะกรรมการบริษัท และ/หรือคณะกรรมการบริหาร และ/หรือ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มีอำนาจในการจดทะเบียนเพิ่มทุนและแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ รวมถึงมีอำนาจดำเนินการต่าง ๆ ที่จำเป็นและสมควรเพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งของนายทะเบียน เพื่อให้การดำเนินการจดทะเบียนดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์

3. มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 เพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ ที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่จัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวนไม่เกิน 75,000,000 หน่วย

และมีอัตราการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงการใช้สิทธิ 1หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 5 หุ้นสามัญ โดยใบสำคัญแสดงสิทธิจะมีอายุ 3 ปี ระยะเวลาการใช้สิทธิทุกๆ 6 เดือน ราคาใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิหน่วยละ 12.75 บาท ต่อหน่วย

4. มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 พิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 8,837,309,596 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ 1.00 บาท ดังนี้

4.1 การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวนไม่เกิน 75,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 3.76 ของทุนชำระแล้วของบริษัทฯ ภายหลังการเพิ่มทุนชำระแล้ว จัดสรรให้แก่ผู้สนใจลงทุน ซึ่งสามารถส่งเสริมเกื้อกูลต่อธุรกิจทั้งในปัจจุบันและโครงการในอนาคตของบริษัทฯ ได้

โดยจะเข้ามาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (Business partner) และมีบทบาทในการส่งเสริมการดำเนินงานของบริษัทฯ ให้บรรลุตามแผนงานได้ ทั้งนี้ ผู้สนใจทุกรายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด โดยจำนวนหุ้นที่เสนอขายให้แต่ละรายจะไม่มีรายใดเข้ามาถือหุ้นตั้งแต่ร้อยละ 25 ของทุนชำระแล้วของบริษัทฯภายหลังการเพิ่มทุนชำระแล้ว

โดยบริษัทฯ อาจจัดสรรในคราวเดียว หรือหลายคราวได้ โดยกำหนดราคาหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ 2.55 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นมูลค่ารวมไม่เกินกว่า 191,250,000 บาท

 

จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวนไม่เกิน 375,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1.00 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่จะจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวนไม่เกิน 75,000,000 หน่วย

จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนเพื่อรองรับการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน การถือหุ้นโดยไม่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทฯ มีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ (Preferential Public Offering :PPO) โดยบริษัทฯ จะออกและเสนอ ขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งเดียวเต็มจำนวนหรือบางส่วนก็ได้โดยเสนอขายเป็นคราวเดียวหรือเป็นคราวๆ ไปก็ได้ 

ทั้งนี้ การเสนอขายราคาหุ้นละ 1 บาท โดยการจัดสรรหุ้นจะดำเนินการ 2 ครั้ง ซึ่งกำหนดในอัตราส่วนดังนี้ ครั้งที่ 1 กำหนดอัตราส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ และ ครั้งที่ 2 กำหนดอัตราส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 1.5 หุ้นใหม่

ทั้งนี้ ณ วันที่มีการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ลงทุนที่สนใจ โดยเมื่อบริษัทได้รับความชัดเจนจากการเจรจากับผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงแล้ว บริษัทฯ จะจัดประชุมคณะกรรมการบริษัทอีกครั้งหนึ่งเพื่อพิจารณาอนุมัติการกำหนดรายชื่อผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงและการจัดสรรจำนวนหุ้นที่เสนอขายต่อไป

โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการดังกล่าวได้ภายในวันที่ 1 ก.ค. 2567 บริษัทฯ จะแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับรายชื่อผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงที่ได้รับการเสนอขายหุ้นที่ชัดเจนให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทราบผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป

การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ นั้น เป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ราคา หุ้นละ 2.55 บาท ถือเป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในราคาที่มีส่วนลดไม่เกินร้อยละ 10 จากราคาตลาด ตามที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน

นอกจากนี้บริษัทฯ จะต้องได้รับความเป็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ให้แก่บุคคลในวงจำกัดในครั้งนี้ ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนแล้ว บริษัทฯ จะต้องได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ตามประกาศ ทจ. 72/2558 อีกด้วย

อนึ่ง หากราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาดย้อนหลัง 7-15 วันทำการก่อนแรกที่เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด บุคคลในวงจำกัดจะไม่สามารถนำหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ได้รับทั้งหมดออกขายภายในกำหนดระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่หุ้นของบริษัทฯ เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ (Silent Period) โดยภายหลังจากวันที่หุ้นในส่วนเพิ่มทุนดังกล่าว ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯครบกำหนดระยะเวลา 6 เดือน บุคคลในวงจำกัดจะสามารถทยอยขายหุ้นที่ถูกสั่งห้ามขายได้ในจำนวนร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่ถูกสั่งห้ามขาย

หากที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติแล้ว คณะกรรมการจะพิจารณากำหนดวันที่ 16 ก.ค. 2567 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ (Record date) ได้รับการจัดสรรและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น

โดยไม่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทฯ มีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ (Preferential Public Offering: PPO) ทั้งนี้ สิทธิในการจองซื้อและได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอนจนกว่าจะได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567