HMPRO งบ Q1/67 กำไรโต 6.31% ทำได้ 1,712.84 ล้านบาท

HMPRO งบ Q1/67 กำไรโต 6.31% ทำได้ 1,712.84 ล้านบาท

บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) เผยงบ Q1/67 กำไร 1,712.84 ล้านบาท โต 6.31% ทำได้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สอดคล้องกับรายได้รวม 18,787.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 535.71 ล้านบาท หรือ 2.94%

นางสาววรรณี จันทามงคล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO  แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1 ปี2567 เท่ากับ 1,712.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 101.72 ล้านบาท หรือ 6.31% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักดังนี้
 

1. รายได้รวม จำนวน 18,787.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 535.71 ล้านบาท หรือ 2.94% ซึ่งประกอบไปด้วย

1.1. รายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า ซึ่งประกอบไปด้วยรายได้จากการขายสินค้า และรายได้จากการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวม 17,663.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 440.36 ล้านบาท หรือ 2.56% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยการปรับตัวเพิ่มขึ้นนี้ เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นของสาขาโฮมโปรและเมกาโฮม การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ Easy E-Receipt ของทางรัฐบาลในช่วงวันที่ 1 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2567 รวมถึงบริษัท ยังมีการผลักดันยอดขายในช่วงไตรมาส 1 อย่างต่อเนื่อง จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่หลากหลาย ทั้งในส่วนของช่องทางสาขา และออนไลน์ อีกด้วย
1.2. รายได้ค่าเช่า  450.83 ล้านบาท ลดลง 26.16 ล้านบาท หรือ 5.48% จากปีก่อน เป็นผลมาจากงดจัดงาน HomePro Expo ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานีในช่วงเดือนมีนาคม โดยได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นการจัดงาน HomePro Super Expo ในช่วงเดือนเมษายนแทน ผ่านช่องทางสาขาและออนไลน์
1.3. รายได้อื่น  672.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 121.50 ล้านบาท หรือ 22.03% โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มจำนวนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้าทั้งในช่องทางสาขาและช่องทางออนไลน์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

2. กำไรขั้นต้นจากการขายสินค้า และการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวม 4,635.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 142.87 ล้านบาท หรือ 3.18% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขาย เพิ่มขึ้นจาก 26.08% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 26.24% ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมของกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง รวมถึงการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการได้รับส่วนลดจากคู่ค้าที่เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของธุรกิจโฮมโปร และเมกาโฮม

3. ต้นทุนค่าเช่า จำนวน 196.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.10 ล้านบาท หรือ 1.60% โดยมาจากต้นทุนสาธารณูปโภคจากการให้พื้นที่เช่าที่เพิ่มขึ้น จากการเปิดโฮมโปรสาขาใหม่ ตั้งแต่ปี 2566 ที่ผ่านมา

4. ค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหาร 3,273.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 80.94 ล้านบาท หรือ 2.54% เมื่อเทียบกับปีก่อน อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายอยู่ในระดับ 18.53% ซึ่งอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ระดับ 18.54% โดยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาจาก ค่าเสื่อมราคา ค่าใช้จ่ายทางการตลาด และการส่งเสริมการขาย และค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต ในขณะที่ค่าใช้จ่ายที่ลดลง ได้แก่ ค่าสาธารณูปโภค และค่าใช้จ่ายในการเปิดสาขาใหม่

5. รายได้ทางการเงิน 7.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.35 ล้านบาท หรือ 204.71% จากรายได้ดอกเบี้ยรับที่เพิ่มขึ้น

6. ค่าใช้จ่ายทางการเงิน 157.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.46 ล้านบาท หรือ 18.33% จากการออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อชำระหนี้ที่ครบกำหนดบางส่วนตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ต่อเนื่องจนถึงไตรมาสที่ 4 ปี 2566 ในอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน รวมถึงบริษัท มีการทำสัญญาเช่าระยะยาวสำหรับสาขาใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ดอกเบี้ยจ่ายตามมาตรฐาน TFRS16 สูงขึ้น

7. ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้   426.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.07 ล้านบาท หรือ 8.68% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน เป็นผลจากกำไรก่อนหักภาษีที่เพิ่มขึ้น

สำหรับการขยายสาขาในไตรมาสที่ 1 บริษัทยังไม่ได้มีการเปิดสาขาใหม่จึงทำให้ ณ สิ้นไตรมาสที่1 ของปี 2567 บริษัทมีโฮมโปร 89 สาขา โฮมโปรเอส 5 สาขา เมกาโฮม 27 สาขา และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย 7 สาขา

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์