‘เนชั่น’ เปิดแผนเร่งเติบโต เล็งออกหุ้นกู้ 300 ล้าน ทางเลือก ‘ต่อยอด’ ธุรกิจ

‘เนชั่น’ เปิดแผนเร่งเติบโต เล็งออกหุ้นกู้ 300 ล้าน ทางเลือก ‘ต่อยอด’ ธุรกิจ

‘เนชั่น’ เปิดแผนเร่งเติบโต เล็งออกหุ้นกู้ 300 ล้าน เป็นทางเลือก ‘ต่อยอด’ ธุรกิจ มุ่งเน้นเติมเต็ม “คอนเทนต์” ครอบคลุมทุกคอมมูนิตี้มากยิ่งขึ้น เพื่อขยายการโตยั่งยืน

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงด้าน “นวัตกรรมและเทคโนโลยี” (Digital Disruption) เข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนในสังคม ซึ่งสร้างผลกระทบต่อสื่อ หรือ Media Business อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น หนึ่งในองค์กรสื่อที่อยู่คู่กับสังคมไทยมา 54 ปี อย่าง บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ NATION ​ต้องเร่งปรับตัว ปรับวิธีการทำงาน และปรับกลยุทธ์ เพื่อสร้างการเติบโตครั้งใหม่!

 

‘เนชั่น’ เปิดแผนเร่งเติบโต เล็งออกหุ้นกู้ 300 ล้าน ทางเลือก ‘ต่อยอด’ ธุรกิจ

“วรางคณา กัลยาณประดิษฐ” รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ NATION เปิดเผยว่า สำหรับเป้าหมายธุรกิจในปี 2567 ยังคงถือเป็น “ผู้นำเบอร์ 1” ทางด้านการนำเสนอข่าวสารเพื่อสร้างสรรค์สื่อเพื่อสังคมที่ครอบคลุมทั้งสื่อดั้งเดิมและสื่อใหม่ อย่าง “ทีวี-หนังสื่อพิมพ์-นิวมีเดีย-ออนไลน์บนเว็บไซต์-โซเชียลมีเดีย” ดังนั้น เนชั่นถือว่าเป็นองค์กรที่มีสื่อครบทุกแพลตฟอร์ม รวมถึงเป็นที่ยอมรับในการจัดกิจกรรม On Ground ไม่ว่าจะเป็นงานสัมมนา, งานเอกซ์โป (Expo), งานมอบรางวัล (Award), การจัดงาน CSR, การจัดงานดินเนอร์ทอล์ก (Dinner Talk) จัดกิจกรรมมากกว่า 70 กิจกรรมต่อปี ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้ทุกกลุ่ม ส่วนของกิจกรรม Sustainable (ยั่งยืน) และ CSR เครือเนชั่นได้ทำมาอย่างต่อเนื่องหลายปีแล้ว ส่วนการเป็น Content Provider จะเน้นให้มีคุณภาพที่มากขึ้น

สำหรับแผนธุรกิจดังกล่าวมุ่งเน้นเติมเต็ม “คอนเทนต์” ให้ครอบคลุมทุกคอมมูนิตี้มากยิ่งขึ้น ยังคงให้ความสำคัญในส่วนธุรกิจเดิม นั่นคือ การผลิตคอนเทนต์ด้านข้อมูลข่าวสาร พร้อมกับนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของกองบรรณาธิการในเครือที่มีมากกว่า 10 แบรนด์

ทั้งนี้ ในส่วนผู้ประกาศ AI หญิง “ณัชชา” เป็นครั้งแรกในเมืองไทยที่เปิดตัวไปเมื่อ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา ถือว่าไม่ใช่โปรเจกต์แรกโดยตลอดเวลาที่ผ่านมาได้มีการทำงานข่าวที่เป็น AI หลายครั้ง และได้มีการออนไลน์-ออนแอร์ต่อเนื่อง ส่วนผู้ประกาศ AI หญิง “ณัชชา” ครั้งนี้ถือเป็นความคืบหน้าอีกส่วนหนึ่งของงานข่าวที่ “น้องณัชชา” สามารถพูดได้ตรงกับปากที่ตรงคำพูดและมีความแอคทีฟ

โดยประโยชน์ที่ได้นำ AI เข้ามาใช้ มองว่าเทคโนโลยี AI จะช่วยทำให้สามารถลดต้นทุนระยะยาวได้ รวมถึงช่วยเพิ่มสีสันการอ่านข่าวบนหน้าจอ รวมถึงงานหลังบ้านต่างๆ ด้วย ในเฟสต่อไปจะมีการพัฒนาผู้ประกาศ AI หญิง “ณัชชา” ให้สามารถเดินได้ ขยับได้ และมีความแอกทีฟที่มากขึ้น ซึ่งถือเป็นพัฒนาการหนึ่งขององค์กรที่ในอนาคตจะสามารถต่อยอดสู่งานหลากหลายรูปแบบ อาทิ Influencer, พิธีกรงาน Event และ Virtual conference โดย Ai Reporter จะทำหน้าที่เสมือน Brand Ambassador ของเนชั่นทีวีต่อไป

“ปัจจุบันการพัฒนา ผู้ประกาศ AI หญิง 'ณัชชา' ได้มีการใช้บุคลากรภายในองค์กรในการจัดทำขึ้นมา หากในอนาคตต้องการให้ 'น้องณัชชา' สามารถเคลื่อนไหวได้อาจจะต้องมีพาร์ตเนอร์เข้ามาร่วมด้วย ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างเจรจาหาความร่วมมือร่วมกันอยู่”

สำหรับแพลตฟอร์มที่มีอยู่ทั้งหมดในปัจจุบันมีผู้ติดตามรวมกว่า 64.6 ล้านคน แต่ละวันมีคนเข้าดูประมาณวันละ 4.7 ล้านต่อวัน อย่างไรก็ตาม การเป็นสื่อนับวันเริ่ม “ยากขึ้น” ในโลกออนไลน์ยุคปัจจุบัน ดังนั้น บริษัทจึงคิดที่จะ “ต่อยอด” จากสิ่งที่มีอยู่ โดยพัฒนาธุรกิจใหม่ร่วมกับผู้ที่มีประสบการณ์ในทางอุตสาหกรรมเกี่ยวกับธุรกิจภาพยนตร์ เช่น แบล็คดรากอน เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ที่ผลิตตคอนเทนต์ในเกาหลี เป็นผู้สร้างภาพยนตร์ Parasite , ซีรี่ย์ Crash Landing on You และ ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม ซึ่งผู้ผลิตภาพยนตร์ชั้นนำของไทย

ทั้งนี้ เบื้องต้นได้มีการร่วมมือกันสร้างผลิตภาพยนตร์ด้วยกัน 2 เรื่อง เรื่องแรกคือ Monk Konnichiwa นำแสดงโดย เป้-อารักษ์ และ เฟย-ภัทร มีกำหนดเข้าฉายกลางปีนี้ อีกหนึ่งเรื่องเพิ่งได้มีการบวงสรวงไปเมื่อไม่นานมานี้ คือเรื่อง นากรักพี่มาก...ม๊ากม๊าก เป็นการรวมตัวกันของตลกชื่อดังของเมืองไทย อย่าง “หม่ำ เท่ง โหน่ง” โดยมีกำหนดการเข้าฉายภายในเดือนธ.ค. นี้ ซึ่งตรงนี้เป็นการเริ่มต้นที่จะเข้ามาสู่ธุรกิจภาพยนตร์ 

อีกธุรกิจหนึ่ง ซึ่งมองว่าจะมีการเติบโตค่อนข้างมาก “การจัดงานเฟสติวัล” ซึ่งจะเป็นเกี่ยวกับมิวสิคเฟสติวัล โดยตั้งเป้าจะใช้เทศกาลสงกรานต์ปี 2568 ซึ่งถือว่าเป็นประเพณีที่มีชื่อเสียงของไทยในการจัดเทศกาลดนตรีระดับโลก โดยร่วมทีมกับผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ โดยจะให้เป็น Iconic Event ของประเทศ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย ซึ่งคาดหวังว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 100,000 ราย ถือเป็นธุรกิจหนึ่งที่มีโอกาสในการเติบโตได้

นอกจากนั้น สิ่งที่จะต้องกลับมาทบทวนตลอดระยะเวลา 54 ปีของการทำธุรกิจสื่อ จากการที่มีทรัพยากรมหาศาลที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฟุตเทจ หรือ คลิปวิดีโอ หรือคอนเทนต์ หรือภาพ ที่อยู่ในคลัง ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนจัดระเบียบในการที่จะสามารถเรียกนำกลับมาใช้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อไปได้ เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าทางธุรกิจ และเป็นการสร้างแพลตฟอร์ม สร้างอีโคซิสเต็ม ให้กับองค์กรได้ในอนาคตให้เกิดความยั่งยืนได้

ขณะเดียวกัน ในส่วนของ “การออกหุ้นกู้” ถือเป็นอีกทางเลือกในการระดมทุนของนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ให้ความสนใจ และการขายหุ้นกู้สามารถทำได้ค่อนข้างสะดวกและทันต่อสภาวะตลาด ดังนั้น จึงมีแผนศึกษาออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 300 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมตราสารหนี้ระยะสั้น-ยาว และใช้ดำเนินงาน หรือเป็นทุนหมุนเวียนสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัท และบริษัทในเครือ เพื่อใช้ลงทุนที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนธุรกิจหลัก

โดยการออกหุ้นกู้นั้นจะต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ของ ก.ล.ต. รวมถึงตลาดหลักทรัพย์ฯ และสมาคมตราสารหนี้ไทย และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องที่ได้กำหนดไว้ ส่วนด้านการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันบริษัทได้ให้ความสำคัญของการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และความโปร่งใสยึดหลักการและปฎิบัติตามนโยบายคู่มือมาตรการต่อต้านคอรัปชั่น 

ทั้งนี้ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งได้รับการรับรองเป็นสมาชิกโครงการแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย หรือ CAC ที่มีนโยบายผลักดันให้ภาคเอกชนไทยได้มีการตระหนัก และร่วมกันแก้ไขปัญหาทุจริตและคอร์รัปชันด้วยการส่งเสริมให้บริษัทต่าง ๆ มีการกำหนดนโยบายและวางแนวปฎิบัติเพื่อป้องกันการรับและการติดสินบน รวมถึงการทุจริตคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. 2560 ด้วยอายุของ CAC มีวาระคราวละ 3 ปี ซึ่งบริษัทได้รับอนุมัติต่ออายุ CAC ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2563 ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจของบริษัทอีกครั้งที่ได้รับการต่อสมาชิก CAC เป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2566 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการยืนยันว่า ได้มีการตระหนักและให้ความสำคัญของการวางระบบป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันที่ได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการจัดทำคู่มือ Nation Way โดยได้มีการปรับปรุงฉบับล่าสุดเมื่อปี 2566 เพื่อเป็นหลักปฎิบัติในด้านการทำหน้าที่สื่อมวลชนของคนข่าวเครือเนชั่น

สำหรับผลการดำเนินงานปี 2566 โครงสร้างรายได้รวมอยู่ที่ 911 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่เป็นสาระสำคัญที่เกิดขึ้นในปี 2566 นั่นคือ ธุรกิจที่เปิดใหม่เพิ่มขึ้น 2 ธุรกิจคือ ฐานเศรษฐกิจ และเนชั่น นิวส์ ทำให้โครงสร้างรายได้ธุรกิจนิวมีเดียมีรายได้ประมาณ 383 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เทียบกับปี 2565 ที่มีรายได้อยู่ที่ 349 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจพับลิชชิ่งปี 2566 ที่ 163 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 152 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% หลังมีฐานเศรษฐกิจเข้ามา

นอกจากนี้ ปี 2566 มีกิจกรรมอีเวนต์การเลือกตั้งครั้งใหญ่ทั่วประเทศ ทำให้มีการจัดอีเวนต์ค่อนข้างมากเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส่งผลให้รายได้อีเวนต์ปรับเพิ่มขึ้น 159 ล้านบาท จาก 119 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนเพิ่มขึ้น 34%