กูรูชี้หุ้นสหรัฐมีโอกาส’ดาวน์เทิร์น’ คาดดัชนี S&P 500 ปิดปี ร่วงแตะ 4,750 จุด

กูรูชี้หุ้นสหรัฐมีโอกาส’ดาวน์เทิร์น’ คาดดัชนี S&P 500 ปิดปี ร่วงแตะ 4,750 จุด

นักกลยุทธ์จาก‘เอเวอร์คอร์ ไอเอส’ ชี้ ตลาดหุ้นสหรัฐมีโอกาส’ดาวน์เทิร์น’ อัตราเงินเฟ้อการและความผันผวนทางการเมือง อาจทำให้ดัชนี S&P 500 จะร่วงลงไปแตะที่ 4,750 จุดก่อนสิ้นปี ลดลง 6% จากปัจจุบัน

จูเลียน เอ็มมานูเอล นักกลยุทธ์จาก บริษัทหลักทรัพย์ เอเวอร์คอร์ ไอเอสไอ (Evercore ISI) กล่าวว่า ตลาดหุ้นสหรัฐกำลังเข้าสู่ขาลงต่อเนื่องตลอดปี 2567  หลังจากที่ร่วงลงมาจากจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนที่แล้ว 

นักกลยุทธ์ยืนยันเป้าหมายดัชนี S&P 500 ที่ 4,750 จุดก่อนสิ้นปีอีกครั้ง ซึ่งหมายความดัชนีจะลดลงอีก 6% จากระดับ 5,022 จุด ณ วันที่ 18 เม.ย.67 โดยมองว่าปัจจัยต่างๆ มาจากความล่าช้าในการแก้ไขปัญหาด้านเงินเฟ้อ, ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐจะลดอัตราดอกเบี้ย และความผันผวนทางการเมืองในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น

กูรูชี้หุ้นสหรัฐมีโอกาส’ดาวน์เทิร์น’ คาดดัชนี S&P 500 ปิดปี ร่วงแตะ 4,750 จุด

เอ็มมานูเอล กล่าวว่า "ในฐานะนักกลยุทธ์ การคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นจะร่วงลงนั้นเป็นสถานการณ์ที่ไม่สบายใจ  แต่ผลการวิเคราะห์ของเรายังคงชี้ไปในทิศทางเดิมเนื่องจากราคาหุ้นในปัจจุบันอยู่ในระดับที่สูงมาก "

โดยเฉลี่ยแล้วตลาดหุ้นมีโอกาสร่วงลง 13% ในปีที่ไม่มีภาวะถดถอย  โดยมีสาเหตุหลักมาจากแรงกดดันด้านต้นทุนที่ยังคงมีอยู่และนโยบายการเงินของธนาคารกลางที่ยังไม่แน่นอน

นอกจากนี้เอ็มมานูเอลยังคาดการณ์ว่า การเลือกตั้งทางการเมืองที่ดุเดือดจะส่งผลให้ผู้บริโภคหันเหความสนใจจากการใช้จ่ายและมุ่งเน้นไปที่การตัดสินใจว่าจะลงคะแนนเสียงให้ใคร ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวและตลาดหุ้นร่วงลง 

ตลาดหุ้นขาลง โอกาสเข้าซื้อดัชนี S&P 500

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดดิ่ง 4 วันติดต่อกัน   นับเป็นการร่วงลงติดต่อกันยาวนานที่สุด  นับตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม  หลังจากดัชนี S&P 500  เคยพุ่งขึ้นถึง 22%  จากจุดต่ำสุดปลายเดือนตุลาคม

ทำให้นักลงทุนเริ่มสูญเสียความมั่นใจ  เนื่องจากโอกาสในการทำกำไรมีน้อยลง ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งออกมาต่ำกว่าคาด ธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าจะใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด

แม้ว่าดัชนีหุ้นหลักทรัพย์จะเคยทำสถิติสูงสุดในวันที่ 28 มีนาคม  แต่แท้จริงแล้วดัชนีกลับร่วงลง  1.5%  นับตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์

ขณะที่เอ็มมูเอลคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะเป็น"ขาลง" โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากมีการเลือกตั้ง แต่ยังมีแผนที่จะซื้อหุ้นเมื่อดัชนี S&P 500 ร่วงลงมาแตะระดับราคาที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้

โดยปัจจัยหนึ่งที่ทำให้โมเมนตัมของราคาหุ้นพุ่งสูงเกินจริงในช่วงเดือนมีนาคม มาจากนักลงทุนรายย่อยที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นอย่างคึกคัก จนทำสถิติสูงสุด แต่ตอนนี้เราคิดว่านักลงทุนเหล่านี้จะเริ่มลดความคึกคักลง และปรับพอร์ตการลงทุนใหม่เสริม

"ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่จะผลักดันตลาดหุ้นให้ขึ้นเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในช่วง 35 ปีที่ผ่านมา ก็คือ โอกาสในการซื้อเมื่อตลาดหดตัวนั่นเอง"

อ้างอิง bloomberg