EA กางแผน 5 ปี ตั้งเป้าลงทุน 3.5 หมื่นล้าน ปีนี้เพิ่มยอดขายรถบรรทุก EV อีก 3,700 คัน

EA กางแผน 5 ปี ตั้งเป้าลงทุน 3.5 หมื่นล้าน ปีนี้เพิ่มยอดขายรถบรรทุก EV อีก 3,700 คัน

EA กางแผน 5 ปี ตั้งเป้าลงทุน 3.5 หมื่นล้าน 69% ลงทุน EV ecosystem 30% ธุรกิจพลังงาน และ 1% ใน bio diesel และ sustainable aviation feul (SAF) ปีนี้เพิ่มยอดขายรถบรรทุก EV อีก 3,700 คัน จากเดิม 3,300 คัน

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุว่า บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA ตั้งเป้าเติบโตสูงขึ้นสำหรับยอดขายรถบรรทุกไฟฟ้า หรือ EV Trucksในปีนี้ จาก 3,300 คัน เป็น 3,700 คัน เปรียบเทียบการส่งมอบ 2,264 คัน ในปีที่ผ่านมา โดยเป้าปีนี้คิดเป็นเพียง 5% ของยอดจดทะเบียนรถบรรทุกใหม่ของประเทศไทย จึงมีมุมมองเชิงบวกจากประโยชน์ที่ได้รับจากมาตรการสนับสนุนภาครัฐและขนาตตลาดที่ใหญ่ของ EV Trucks ที่คาดว่าจะเติบโต 

อย่างไรก็ตาม คงสมมติฐานสำหรับการส่งมอบ EV ที่ 3,300 คัน ราคาขาย 4.5 ล้านบาท ในปีนี้ เนื่องจากเป้าหมายค่อนข้างท้าทาย และ EA จะต้องใช้เวลาในการขยายตลาดรายได้จากการขาย EV trucks คาดว่าจะเห็นการปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ของปีนี้ อัตรากำไร EV trucks คาดว่าจะสูงขึ้นมากกว่า EV busses

สำหรับแผนการลงทุน 5 ปี ตั้งเป้าลงทุนราว 3.5 หมื่นล้านบาท โดย 69% เป็นการลงทุนในธุรกิจ EV ecosystem, 30% ในธุรกิจพลังงาน และ 1% ใน bio diesel และ sustainable aviation feul (SAF) โดยแผนการลงทุนโฟกัสไปที่ธุรกิจ EV ecosystem ในการขยายกำลังการผลิตแบตเตอรี่และสถานีชาร์จ แหล่งเงินทุนคาดว่า จะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน และเงินกู้ยืมระยะยาว

นอกจากนี้ EA มีแผนจะขยายธุรกิจ Waste to energy (WTE) เริ่มจากสองโครงการ WTE ใน ภูเก็ต และ ปทุมธานี ด้วยกำลังการผลิตรวม 16MW โดยโครงการดังกล่าวคาดว่าจะสร้างรายได้ราย 900 ล้านบาท/ปี และ EBITDA ที่ 600ล้านบาท/ปี ตามลำตับ นอกจากนี้ การเติบโตในกลุ่มธุรกิจพลังงานจะสนับสนุนโดย hybrid wind และ solar solution ในแง่ของสัญญาซื้อขายไฟ (private Power Purchase Agreements (PPA))

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ EA จับมือร่วมกับ บมจ.บริหารเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) ลงนามสัญญาร่วมมือ JV โดยโฟกัสที่การผลิต SAF การร่วมมือครั้งนี้ตั้งเป้าในการลดการปล่อยมลพิษในกลุ่มการบิน และสนับสนุนเป้าหมายประเทศไทยในการบรรลุเป้า net zero การร่วมมือเป็นการสนับสนุนจากความเชี่ยวชาญด้านพลังงานสะอาดของ EA และประสบการณ์การจัดการน้ำมันและการควบคุมคุณภาพ จึงมีมุมมองเชิงบวกเล็กน้อยกับโอกาสในตลาด อย่างไรก็ตาม การผลิตและการขาย SAF ยังอยู่ในช่วงเริ่มตัน และ SAF มีราคาขายที่สูง คาดว่จะเห็นการปรับตัวดีขึ้นในรายได้ในปี 2570 เป็นตัน

ทั้งนี้ ในส่วนการขยายกำลังการผลิตแบตเตอรี่เป็น 6Gwh บริษัทฯคาดว่า จะเพิ่มกำลังการผลิตจาก 2Gwhในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ EA ได้ร่วมมือกับ EVE Enerty ซึ่งเป็นบริษัทลิเธียมแบตเตอรีระดับโลกในการพัฒนาความสามารถในการผลิต คาดว่าจะเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นในการร่วมมือในไตรมาส 3/67 

สำหรับ แนวโน้มกำไรดีขึ้นจากปีนี้เป็นตันไป คาดว่า EA จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 ที่ไม่น่าสนใจลดลง yoy และ qoq เนื่องจากรายได้จากการสนับสนุนจากโครงการ Solar ที่ นครสวรรค์ 90MW และการส่งมอบ EV ที่ต่ำ คาดกำไรสุทธิจะต่ำที่สุดในไตรมาส 1/67 และจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 2/67 เป็นตันไป

อย่างไรก็ตาม EA มีความนำสนใจจากการเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดและอยู่ในตำแหน่งที่ดีในการได้รับประโยชน์จากมาตรการสนับสนุนภาครัฐ นอกจากนี้ เราชอบ EA เนื่องจากความร่วมมือกับบริษัทที่เป็นผู้นำ ที่จะสร้างโอกาสการเติบโตในอนาคต และสุดท้ายราคาหุ้นอยู่ในระดับต่ำกว่ามูลค่าเหมาะสมด้วย P/E ปีนี้ ที่ 19 เท่า ต่ำกว่า - 1 S.D.