ทำไม ’เทสลา’ ตกชั้นหุ้น 7 นางฟ้าร่วงที่โหล่ ฝันร้ายปี 2024 เมื่อตลาดอีวีชะลอตัว

ทำไม ’เทสลา’ ตกชั้นหุ้น 7 นางฟ้าร่วงที่โหล่ ฝันร้ายปี 2024 เมื่อตลาดอีวีชะลอตัว

เมื่อเทสล่า กลายเป็นหุ้นเทคที่โชว์ฟอร์มได้แย่ที่สุดในดัชนี S&P 500 จนตกชั้น ”หุ้น 7 นางฟ้า“ ผลตอบแทนร่วงกว่า 30% ตั้งแต่ต้นปี มูลค่าบริษัทลดฮวบ 2.3 แสนล้านดอลลาร์ ปีนี้ต้องจับตาคาดการณ์ผลประกอบการณ์ในไตรมาสแรก หลังจากเสียตำแหน่งเบอร์ 1 รถอีวีให้กับ BYD เมื่อปีก่อน

เทสลาเสียตำแหน่งจาก "Magnificent Seven" หลังจากที่ติด 1 ใน 7 หุ้นเทคโนโลยีมีกำไรพุ่ง 3 หลักในปี 2566 สู่ "ที่โหล่“ โชว์ฟอร์มแย่สุดตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ( year-to-date ) ในตลาดหุ้นสหรัฐของดัชนี S&P 500 

ทำไม ’เทสลา’ ตกชั้นหุ้น 7 นางฟ้าร่วงที่โหล่ ฝันร้ายปี 2024 เมื่อตลาดอีวีชะลอตัว

แต่ปี 2567 กลับเป็นปีที่เลวร้าย หุ้น Tesla ร่วงลง 30% มูลค่าบริษัท Tesla หายไป 2.3 แสนล้านดอลลาร์ จากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์รถยนต์ไฟฟ้าที่เริ่มชะลอตัว และการแข่งขันที่เข้มข้น

 

ผลการดำเนินงานของ Tesla ยังแย่กว่า“โบอิ้ง”ผู้ผลิตเครื่องบินที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติ หลังจากการระเบิดของ Alaska Airlines 737 MAX กระตุ้นความกลัวของนักลงทุนเกี่ยวกับปัญหาด้านความปลอดภัยจนทำให้หุ้นร่วงลงเกือบ 29%

ตลาดอีวีชะลอตัว ฝันร้ายของเทสล่า

สัญญาณของยอดขาย EV ที่ชะลอตัวทำให้ Tesla สูญเสียตำแหน่งผู้นำ ให้กับ BYD ขึ้นเป็นผู้ขาย EV อันดับ 1 ของโลก และมีสัญญาณว่าความต้องการรถยนต์ของบริษัทกําลังอ่อนตัวลงทั้งในสหรัฐอเมริกาและที่อื่นๆ

Seth Goldstein นักวิเคราะห์ Morningstar มองว่า Tesla เผชิญกับความท้าทาย ผลการดำเนินงานไม่ได้อยู่ในระดับสูงเหมือนในอดีต

"มันควรจะเป็นหุ้นที่มีการเติบโตสูง และปีนี้ดูเหมือนว่าจะไม่เติบโตสูงขนาดนั้น และเมื่อการเติบโตช้าลง เรามักจะเห็นปฏิกิริยาใหญ่จากตลาด“

อนาคตของ Tesla ในปี 2024

ก้าวต่อไปที่จะต้องจับตามองสำหรับเทสลา คือ บริษัทจะเผยคาดการณ์รายงานผลประกอบการในช่วงสามเดือนแรกของปี 2567 ในวันที่วันที่ 17 เมษายนที่จะถึง

ตามการสํารวจของ Refinitiv นักวิเคราะห์คาดการณ์จากซึ่การชะลอตัวอย่างมากในสามเดือนสุดท้ายของปี 2566 มองว่าจะมีกําไร 57 เซนต์ต่อหุ้น 

สิ่งสำคัญของผลประกอบการไตรมาสแรกจะบ่งชี้อนาคตของเทสลาทั้งปี 2567 จากยอดการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าที่ทรงตัว อาจทำให้หุ้นร่วงลง เมื่อตลาดเริ่มสันนิษฐานว่าการเติบโตย่ำแย่

ด้าน การ์เร็ตต์ เนลสัน นักวิเคราะห์ของ CFRA ประเมินราคาหุ้นมีเป้าหมายที่ 275 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าระดับปัจจุบันเกือบ 100 ดอลลาร์

“อีลอน มัสก์”กับอนาคตของ Tesla

 “เรามองว่าเทสลาผู้ผลิตที่ดีที่สุดในตลาดตะวันตก ที่อเมริกาเหนือและยุโรป” และยังเชื่อมั่นว่าเทสลาสามารถทวงตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลกได้

ผู้ถือหุ้นบางคนถึงกับเริ่มบอกเป็นนัยว่า มัสก์ อาจเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาที่หุ้น Tesla ร่วงลง จนถึงขั้นต้องการซีอีโอใหม่

Ross Gerber หนึ่งในนักลงทุนได้ประณาม Tesla เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า อาจถึงเวลาสําหรับ ”ซีอีโอตัวจริงที่จะช่วยบริษัทจริงๆ“ เพื่อแทนที่อีลอน มัสก์

อย่างไรก็ตาม อีลอน มัสก์ ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Tesla และเขามีแรงจูงใจในการเพิ่มมูลค่าหุ้น เรียกได้ว่าอนาคตของ Tesla ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับมัสก์ว่าเขาสามารถแก้ไขปัญหาและสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้หรือไม่

อ้างอิง businessinsider