หุ้นอินเดียผงาด หลังเศรษฐกิจโตเร็วที่สุดในโลก

หุ้นอินเดียผงาด หลังเศรษฐกิจโตเร็วที่สุดในโลก

หุ้นอินเดียผงาด หลังเศรษฐกิจโตเร็วที่สุดในโลก คาดการณ์ GDP ปี พ.ศ.2567 ไว้ที่ 7.6% อินเดียมีความพร้อมทางด้านโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเป็นฐานการผลิตใหม่ของโลก

KEY

POINTS

  • หุ้นอินเดียเป็นตลาดแห่งโอกาสของผู้ลงทุน มีปัจจัยด้านโครงสร้างประชากร ตลาดแรงงานที่เติบโตได้ดี การบริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่ง
  • อินเดียเป็นประเทศที่เศรษฐกิจโตเร็วที่สุดในโลก คาดการณ์ GDP ปี พ.ศ.2567 ไว้ที่ 7.6% 
  • ตลาดหุ้นอินเดียมีระดับ Valuation ค่อนข้างสูง แต่กำไรบริษัทจดทะเบียนยังคงขยายตัวได้ดี สร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีได้ในระดับที่น่าสนใจ
  • บลจ.กสิกรไทย แนะมีกองทุนหุ้นอินเดียเป็นหนึ่งใน Core Portfolio ในสัดส่วนประมาณ 4%

หุ้นอินเดียผงาด หลังเศรษฐกิจโตเร็วที่สุดในโลก คาดการณ์ GDP ปี พ.ศ.2567 ไว้ที่ 7.6% อินเดียมีความพร้อมทางด้านโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเป็นฐานการผลิตใหม่ของโลก

ตลาดหุ้นอินเดียเป็นตลาดแห่งโอกาสการลงทุน มีปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจที่โตเร็วที่สุดในโลก ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน และความได้เปรียบเชิงโครงสร้างประชากร มีศักยภาพการเติบโตสูง

หุ้นอินเดียผงาด หลังเศรษฐกิจโตเร็วที่สุดในโลก

วจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า หุ้นอินเดียเป็นตลาดแห่งโอกาสของผู้ลงทุน โดยมีปัจจัยด้านโครงสร้างประชากร ตลาดแรงงานที่เติบโตได้ดี การบริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่ง และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของประเทศอินเดีย

ทั้งนี้ อินเดียเป็นประเทศที่เศรษฐกิจโตเร็วที่สุดในโลก โดยคาดการณ์ GDP ปี พ.ศ.2567 ไว้ที่ 7.6% ซึ่งการเติบโตของอินเดียไม่ได้มาจากการส่งออกเป็นหลักเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการใช้จ่ายภายในประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ “Atmanirbhar Bharat หรือ อินเดียที่พึ่งพาตนเอง” ประกอบกับอินเดียมีความพร้อมทางด้านโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรองรับการเป็นฐานการผลิตใหม่ของโลกในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เนื่องจากรัฐบาลได้อัดฉีดเม็ดเงินลงมาอย่างต่อเนื่อง และมีความได้เปรียบเชิงโครงสร้างประชากรเป็นอย่างมาก โดยอยู่ในวัยทำงานมากถึง 68% จึงเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการพัฒนาได้อีกมากในอนาคต 

อย่างไรก็ดี แม้ว่าตลาดหุ้นอินเดียมีระดับมูลค่าหุ้น หรือ Valuation ที่ค่อนข้างสูง แต่กำไรบริษัทจดทะเบียนยังคงขยายตัวได้ดี ทำให้ตลาดหุ้นอินเดียยังคงสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีได้ในระดับที่น่าสนใจ 

ทั้งนี้ แนะนำให้มีกองทุนหุ้นอินเดียเป็นหนึ่งในกองทุนหลักของพอร์ตการลงทุน หรือ Core Portfolio ในสัดส่วนประมาณ 4% ล่าสุดได้จัดตั้งกองทุนลดหย่อนภาษีน้องใหม่ที่เน้นโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาวในตลาดหุ้นอินเดีย ชื่อว่า กองทุนเปิดเค อินเดีย หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ KINDIARMF มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลัก Goldman Sachs India Equity Portfolio Class I Shares (Acc.) การันตีผลการดำเนินงานของกองทุนด้วย Morningstar Overall Rating 4 ดาว 

ทั้งนี้ กองทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพดี และเติบโตสูง อาทิ ICICI Bank ธนาคารเอกชนที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอินเดีย, Infosys บริษัทผู้ให้บริการด้านไอทีที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย, Tata Motors ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของอินเดีย และ Sun Pharma บริษัทยาที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย เป็นต้น โดยเน้นเข้าซื้อหุ้นในจังหวะที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง แบ่งสัดส่วนเป็นหุ้นขนาดเล็ก และกลาง 48% และหุ้นขนาดใหญ่ 47% เพื่อหาโอกาสสร้างผลตอบแทนให้ได้มากกว่าดัชนีชี้วัด (ข้อมูล ณ 30 พ.ย.66)

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์