ก.ล.ต. เรียก JKN แจงหุ้นกู้ สางปมร้อนคาดเบี้ยวหนี้

ก.ล.ต. เรียก JKN แจงหุ้นกู้ สางปมร้อนคาดเบี้ยวหนี้

“แอน-จักรพงษ์” ดอดเข้าพบ ก.ล.ต. ด้วยตัวเอง เผยกรณี “JKN” อยู่ระหว่างพูดคุยกันหลายประเด็นยังเปิดรายละเอียดไม่ได้ แต่รับให้ “ทีมงาน” ติดตามตรวจสอบอยู่ต่อเนื่อง ด้าน “ภากร” ติดตามความเคลื่อนไหว หุ้น MGI พร้อมส่งข้อมูลไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามหน้าที่   

วานนี้ (11 มี.ค.) นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ในช่วงเช้าเวลา 9.00 น. ได้เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ด้วยตัวเอง เมื่อสอบถาม นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. ถึงการมาเข้ามาพบ ก.ล.ต. ของนายจักรพงษ์ JKN กล่าวเพียงว่า ยังไม่ทราบเรื่อง 

ทางด้านรายงานข่าว ก.ล.ต. ระบุว่า ในส่วนกรณีของ JKN ยังอยู่ระหว่างดำเนินการและพูดคุยกันในหลายประเด็น ซึ่งทาง ก.ล.ต. อาจยังไม่สามารถให้รายละเอียดกรณีที่ผู้บริหาร JKN เข้ามาพูดคุยได้

ก.ล.ต. เรียก JKN แจงหุ้นกู้ สางปมร้อนคาดเบี้ยวหนี้   

แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากศาลล้มละลายกลาง ได้นัดฟังคำสั่ง JKN ขอฟื้นฟูกิจการในวันที่ 23 เม.ย.นี้ ขณะนี้ทาง ก.ล.ต. ได้ให้สายงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการติดตามตามกระบวนการอยู่รวมถึงการติดตามตรวจสอบตามข้อเรียกร้องของผู้เสียหายหุ้นกู้JKNก็ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการเช่นกัน

“ปกติแล้วในการตรวจสอบของ ก.ล.ต. หากมีเหตุให้เกิดข้อสงสัยว่าจะดำเนินการทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย ก.ล.ต. จะเร่งดำเนินการตรวจสอบและดำเนินตามกระบวนกวนการทางกฎหมาย” 

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ JKN แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ตามที่หุ้นกู้ของบริษัท ครั้งที่ 2/2563 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567 (หุ้นกู้รุ่น JKN239A) ซึ่งที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้รุ่น JKN239A ครั้งที่ 1/2566 ประชุมเมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2566 ได้อนุมัติเลื่อนกำหนดการชำระคืนเงินต้นจำนวนเงิน 19.50 ล้านบาท, ไปเป็นวันที่ 15 ธ.ค. 2566

ส่วนที่เหลือจำนวนเงิน 432.45 ล้านบาท ให้ชำระคืนในวันที่ 23 ก.พ. 2567 และปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มจากเดิม 6.60% ต่อปี เป็นอัตรา 7% ต่อปี และผู้ถือหุ้นกู้มีมติอนุมัติการขอผ่อนผันให้การผิดนัดชำระเงินต้นและดอกเบี้ยในวันครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 1 ก.ย. 2566 ไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดและไม่เรียกชำระหนี้ตามหุ้นกู้โดยพลันนั้น 

ทั้งนี้ ในวันที่ 1 มี.ค. 2567 บริษัทได้รับหนังสือจาก บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้รุ่น JKN239A แจ้งการผิดนัดหุ้นกู้และเรียกให้ชำระเงินต้นและดอกเบี้ยตามหุ้นกู้โดยเร็วที่สุด เนื่องจากบริษัทในฐานะผู้ออกหุ้นกู้ยังไม่ได้ทำการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยภายในวันที่กำหนดตามข้อกำหนดสิทธิ 

กรณีดังกล่าวจึงถือเป็นการผิดนัดตามข้อ 12.1 (ก) แห่งข้อกำหนดว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้และผู้ถือหุ้นกู้ (ข้อกำหนดสิทธิ) เพื่อเรียกให้บริษัทชำระเงินต้นและดอกเบี้ยที่ค้างชำระตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดสิทธิคำนวณจนถึงวันที่ 23 ก.พ. 2567 รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 467.12 ล้านบาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยผิดนัดในอัตรา 9% นับแต่วันที่ผิดนัดชำระเป็นต้นไปจนกว่าบริษัทจะชำระจนเสร็จสิ้น โดยขอให้ชำระภายใน 7 วันนับจากวันที่ที่ระบุในหนังสือดังกล่าว

โดยบริษัทขอเรียนว่า บริษัทได้มีหนังสือกลับไปยังบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เพื่อแจ้งให้ทราบถึงความคืบหน้าของกระบวนการฟื้นฟูกิจการของบริษัท และสภาวะการพักชำระหนี้ (Automatic stay) ของบริษัท ดังนั้น บริษัทจึงยังไม่สามารถชำระเงินต้นและดอกเบี้ยดังกล่าวให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้รุ่น JKN239A ได้ เว้นแต่ศาลล้มละลายกลางจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น 

ทั้งนี้ รวมถึงหุ้นกู้รุ่นอื่นๆ ของบริษัท ได้แก่ JKN243A, JKN24OA, JKN24NA, JKN252A, JKN255A และ JKN246A ตามรายละเอียดในหนังสือที่ JKNGB-008-11/2566 ที่บริษัทได้ชี้แจงผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2566 โดยหากมีความคืบหน้าประการใด บริษัทจะแจ้งให้ทราบผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ส่วนในกรณีราคาหุ้น บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ MGI ที่มีความเคลื่อนไหวร้อนแรง เป็นสิ่งที่เราดำเนินการต่อเนื่องกับหน่วยงานต่อเนื่อง ทั้งการนำส่งข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและในส่วนที่เราทำได้ มีการรายงานและชี้แจงข้อมูลตามอำนาจหน้าที่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน